ททท.จัดกระหึ่มเที่ยวหน้าฝน 55 เมืองรองคึกคัก
แจ๊ก หม่า ดันจีนคุณภาพบุกไทยโกย 7 แสนล้าน

เรื่องโดย…เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน : บล็อกเกอร์ gurutourza

สถานการณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยตลอดไตรมาสแรกปี 2561  สดใสนักท่องเที่ยวต่างประเทศเติบโตกว่า 22% โดยเฉพาะจีนทุบสถิติเป็นครั้งแรกในรอบ 58 ปี หลั่งไหลเข้ามาเที่ยวเดือนละกว่า 1 ล้านคน ทำให้รายได้กระจายสู่ชุมชน เมืองหลัก เมืองรอง สร้างเศรษฐกิจฐานราก เริ่มคึกคักดีขึ้นตามลำดับ และทันทีที่รัฐบาล “พลเอก ประยุทธ์  จันทร์โอชา” เชิญนักลงทุนแถวหน้าของโลกอย่าง “แจ๊ก หม่า” ประธานอาลีบาบาเข้ามาลงทุนพร้อมกับให้ “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” (ททท.) ลงนามข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ แจ๊ก หม่า ทำให้มองเห็นถึงรายได้จากทัวร์จีนตลอดปีนี้จะเพิ่มขึ้นจากเป้าหมายเดิมตั้งไว้แค่ 650,000 ล้านบาท ขยับเป็นเกือบ 700,000 ล้านบาท มากถึง 1 ใน 3 ของรายได้ท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศทั้งหมด

ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2561 ททท.เตรียมเคลื่อนทัพใหญ่สร้างรายได้เพิ่มทั้งการโหมกิจกรรม แนะนำแหล่งท่องเที่ยว ชวนผู้คนออกมาเที่ยวหน้าฝน ทำให้เศรษฐกิจคึกคักมากยิ่งขึ้น สร้างท้องถิ่นเข้มแข็ง มั่นคง อยู่กินดีมีความสุขในการใช้ชีวิต

@ททท.จัดกระหึ่มเที่ยวหน้าฝน-วันธรรมดา

Advertisement

“นายยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ช่วงฤดูฝนในช่วงนอกฤดูการเดินทาง (low season) คนไทยจะไปเที่ยวสวนผลไม้ “อร่อยทุกไร่ ชิมไปทุกสวน” และ “วันธรรมดาน่าเที่ยว” ทุกภาคจะสร้างความคึกคักหลังสงกรานต์ หรือการเลือกเดินทางไปเที่ยวเมืองรอง โดยเฉพาะภาคตะวันออก ขณะนี้ทุกภาคก็มีผลไม้ท้องถิ่นให้นักท่องเที่ยวไปได้ทุกสวน

Advertisement

ระหว่างวันที่ 10-13 พฤษภาคม 2561 ททท. 5 ภูมิภาค เตรียมจัดมหกรรม “วันธรรมดาน่าเที่ยว & Outdoor Fest”  นำผู้ประกอบการจัดโปรโมชั่นกระตุ้นท่องเที่ยวหน้าฝน และชวนไปเที่ยววันธรรมดาลดความแออัดบางช่วงด้วยการชวนกันไปเที่ยววันธรรมดาทั้งใกล้และไกลได้ เช่น ระยอง ราชบุรี อุทัยธานี หรือบินข้ามภาคลงเชียงใหม่แล้วเดินทางต่อไปเที่ยวเมืองรองลำพูน เช่นเดียวกับภาคอื่นๆ ในอีกหลายจังหวัดบินแบบเดียวกันเที่ยวได้สบายๆ

เพราะตามเป้ารายได้ท่องเที่ยวปี 2561 ททท.ตั้งไว้รวม 3 ล้านล้านบาท จากตลาดต่างประเทศ 2 ล้านล้านบาท และตลาดในประเทศ 1 ล้านล้านบาท เน้นกลยุทธ์ชวนเที่ยววันธรรมดาให้ถึง 30% ควบคู่กับเพิ่มอัตรารายได้จากการเข้าพักเฉลี่ยมากขึ้น ยิ่งช่วงค่าเงินบาทแข็งคนไทยจะเดินทางไปต่างประเทศเพิ่ม ดังนั้นจึงต้องหากิจกรรมชวนคนเที่ยวอยู่ในประเทศเพื่อรักษาส่วนแบ่งรายได้ไว้ให้ถึง 1 ใน 3 ของรายได้รวมตลอดปี

สำหรับเป้าหมายในประเทศเดิมก็มี กลุ่มครอบครัว วัยรุ่น/เจนวาย ผู้หญิง ผู้สูงวัย จากนี้ไปต้องเพิ่มความถี่ให้ทุกกลุ่มออกมาเดินทาง หลังจากได้นโยบายเที่ยวเมืองรองสนับสนุนอีกทาง ส่วนการเพิ่มวันธรรมดาต้องเจาะกลุ่มผู้สูงวัยเพราะไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลาสามารถเดินทางได้ตลอด หรือกลุ่มเจนวายทำงานกับเดินทางไปพร้อมกัน

@ทุ่มงบกลางปี’61อัดฉีดเศรษฐกิจเมืองรองพุ่ง

ในช่วงพฤษภาคมนี้จะเริ่มนำงบประมาณรายจ่ายกลางปี 2561 ประมาณ 1,500 ล้านบาท ที่รัฐบาลมอบให้ใช้กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก จะนำไปพัฒนากิจกรรม สร้างการรับรู้ตลาด ใน 55 เมืองรอง ซึ่งมีมาตรการจูงใจของรัฐให้นำค่าใช้จ่ายจากการท่องเที่ยวมาลดหย่อนภาษี 15,000 บาท ระหว่างมกราคม-31 ธันวาคม 2561

ส่วนกิจกรรมการตลาดปี 2561 จะต้องกระตุ้นนักท่องเที่ยวคนไทยใช้จ่ายเงินเพิ่มมากขึ้น และเพิ่มความแรงแคมเปญ Go Local ขณะนี้ทำงานร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รณรงค์ให้บริษัทที่จดทะเบียนนำพนักงานไปจัดกิจกรรม Team Building และประชุมสัมมนาตามต่างจังหวัด

ขณะที่ตลาดต่างประเทศได้หารือกับภาคเอกชนถึงโอกาสและช่องทางการตลาดแนวใหม่เพื่อร่วมมือกันนำนักท่องเที่ยวสู่พื้นที่เป้าหมาย รวมถึงโหมโฆษณาประชาสัมพันธ์ 2 เรื่องหลัก คือ เรื่องแรก อาหารถิ่น มีโครงการทำอาหารถิ่นโบราณต่อยอดกระแสออเจ้านิยมไทย เรื่องที่ 2 เข้าไปส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่นขยายผลทำให้ชุมชนและเมืองรองมีรายได้เสริมมากขึ้น

ททท.จะใช้แผนยกระดับสินค้าชุมชนท่องเที่ยวให้โดดเด่นด้วยกลยุทธ์การเข้าไปพัฒนาองค์ความรู้ และให้ชุมชนไม่ต้องลงทุนจนเกินตัว ทว่าให้รักษาเสน่ห์ความเป็นอัตลักษณ์ท้องถิ่นไว้ ทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านที่ดี รักษาความสะอาด ปลอดภัย และบริหารจัดการขีดความสามารถการรองรับนักท่องเที่ยวแต่ละครั้งที่เข้าไป เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ต้องการไปสัมผัสความเป็นวิถีชีวิตของท้องถิ่นมากกว่าแล้วก็กลับไปเที่ยวซ้ำๆ อีกทั้งยังหาแนวร่วมจากนักท่องเที่ยวเข้ามามีส่วนร่วมดูแลความสะอาด รักษาสิ่งแวดล้อม สร้างความสบายใจด้วยกันทุกฝ่ายในทุกมุมมองไหนทุกพื้นที่

@MOUแจ๊กหม่าทัวร์จีนทำเงินพุ่ง7แสนล้าน

นายยุทธศักดิ์กล่าวว่า ในการเตรียมพร้อมรับมือนักท่องเที่ยวจีนซึ่งหลั่งไหลเข้าสู่ไทยสูงเป็นอันดับ 1 ปีนี้แนวโน้มจะมีมากกว่า 11 ล้านคน ดังนั้นจะขอให้ทุกฝ่ายต้องปรับตัวเข้าหากันทั้งพฤติกรรมของจีนและชุมชนท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่งล่าสุดรัฐบาลและ ททท.ลงนามข้อตกลงความร่วมมือเบื้องต้น (MOU) กับแจ๊ก หม่า ประธานอาลีบาบา ร่วมมือทางการท่องเที่ยวกับธุรกิจในเครืออาลีบาบาคือ triggy เมื่อปี 2559 นำร่องทำไว้บ้างแล้วในการคัดเลือกบริษัทตัวแทนท่องเที่ยวจีนคุณภาพเสนอขายการท่องเที่ยวเข้าไทย ปี 2561 หลังเอ็มโอยูแล้วก็จะเร่งต่อยอดทางด้านการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น เลือก 5 เมืองรอง ได้แก่ เชียงราย ลำปาง สมุทรสงคราม ตราด สตูล รับตลาดคุณภาพจากจีน และสร้างสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น การช้อปปิ้ง ไม่ต้องหอบสินค้าแต่จะเปลี่ยนเป็นใช้โลจิสติกส์ของอาลีบาบาขนส่งไปถึงปลายทาง ประการสำคัญที่สุดจะทำโครงการแลกเปลี่ยนการท่องเที่ยว โดย ททท.นำข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวไปไว้บนแพลตฟอร์มใน triggy  เพราะตามปกตินักท่องเที่ยวจีนที่มาไทยจะใช้ชิปการ์ด ต่อไปก็สามารถนำรายละเอียดของนักท่องเที่ยวแต่ละคนมาใช้ประโยชน์ทั้งเรื่องวางจุดหมายปลายทางที่ต้องการเที่ยว การใช้จ่าย และช้อปปิ้งนิยมซื้อสินค้าอะไรบ้าง

ททท.จะเร่งสื่อสารถึงผู้ประกอบการท่องเที่ยวถึงความร่วมมือระหว่างไทยกับแจ๊ก หม่า อาลีบาบานั้น ต่างฝ่ายต่างได้รับประโยชน์ไม่ได้เกิดการเอาเปรียบกัน แถมไทยยังนำโปรดักซ์ท่องเที่ยวไปไว้บนแพลทฟอร์มของไทยไปไว้ใน triggy ของอาลีบาบาเป็นหลัก เรื่องสำคัญคือต้องหาช่องทางวิธีทำให้ผู้ประกอบการ ชุมชนท่องเที่ยว และสร้างโอกาสให้ประเทศไทย ได้ประโยชน์สูงสุดจากความร่วมมือครั้งนี้

ส่วนสถิติปี 2560 มีนักท่องเที่ยวจีนมาไทย 9.8 ล้านคน ปี 2561 ตั้งเป้าไว้ 11 ล้านคน สร้างรายได้ 650,000 ล้านบาท เพิ่ม 22 % แต่ด้วยกลไกหลังจาก ททท.ร่วมมือกับ triggy จะทำให้รายได้เพิ่มอีก 20,000-30,000 ล้านบาท ปีนี้อาจได้ถึง 700,000 ล้านบาท

ตั้งแต่มกราคม 2561 จนถึงขณะนี้ มีต่างชาติเข้าเมืองไทยเพิ่มขึ้นถึง 15 % โดยเฉพาะจีนเพิ่มระดับสูงถึง 30 % ระหว่างมกราคม-มีนาคม ปีนี้ จีนเข้ามาไทยแล้วเดือนละกว่า 1 ล้านคน เฉพาะกุมภาพันธ์เดือนเดียวมีถึง 1.2 ล้านคน วันที่ 17 กุมภาพันธ์ ตรุษจีนมากสุดวันละ 50,000 คน เป็นการทำลายสถิติสูงสุดในรอบ 58 ปี ททท.สะท้อนถึงกระแสนิยมของจีนเลือกไทยเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้นๆ ของโลก

@ไทยเที่ยวไทยคึกคักไตรมาสแรกทะยานเพิ่ม 5%

นายยุทธศักดิ์กล่าวว่า คนไทยเที่ยวในประเทศ ระหว่างมกราคม-มีนาคม 2561 ทั้งปีใหม่และตรุษจีนเดินทางเพิ่มกว่า 5% จากยอดรวมปี 2560 มีประมาณ 154 ล้านคนครั้ง ส่วนหนึ่งเพราะรัฐบาลทำให้เศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น การเดินทางช่วงหยุดยาวสงกรานต์ 5 วัน คนไทยเพิ่มขึ้น 18% แต่สิ่งที่ ททท.ได้รับรายงานตลอดเทศกาลได้กระจายความสุขในทุกภาคของประเทศ ต่อเนื่องเดือนพฤษภาคมนี้กระตุ้นรายได้เติบโตเพิ่มขึ้นอีก 10% ด้วยปัจจัยสภาพอากาศเย็นชุ่มฉ่ำช่วงฤดูฝน ททท.จะเร่งทำกิจกรรมโปรโมชั่นตลอดทั้งเดือน บวกกับเศรษฐกิจเริ่มดี แหล่งท่องเที่ยวหลากหลายมีมุมใหม่ๆ ทำให้คนหันมาเที่ยวหน้าฝนคึกคักมากขึ้น

ททท.ได้ทำให้การท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต กระตุ้นให้คนไทยออกเดินทางทั้งด้วยตนเอง กับครอบครัว และสามารถเที่ยวได้ตลอด ไม่ต้องคิดรอเที่ยวเฉพาะวันหยุด ด้วยความหลากหลาย ความมีเสน่ห์ของสถานที่ จึงขอให้ทุกคนเปิดใจให้กว้างออกไปเดินทาง ทำให้เรามีพลังใช้ชีวิตบวกต่อไปอย่างมีความสุข เพราะทุกวันนี้เมืองไทยสวยทุกที่ มีมุมใหม่ให้เลือกสัมผัสประสบการณ์ดีๆ ทุกวัน

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image