ททท.ดึงบล็อกเกอร์ปลุก2เมืองรองโตหมื่นล้าน
เปิดไฮไลต์ปราจีนฯ-สระแก้ว12จุดขายมาแรง

นายวิบูลย์ นิมิตวานิช ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้ทำกลยุทธ์การตลาดเชิงรุกกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรองอย่างเร่งด่วนช่วงครึ่งปีหลัง 2 จังหวัด คือ ปราจีนบุรี-สระแก้ว เปิดจุดขายที่น่าสนใจมุมใหม่อีกไม่ต่ำกว่า 12 มุม โดยใช้นวัตกรรมการสื่อสารแนวใหม่จัดทำโครงการ“Travel Blogger Challenge 2018” สำรวจแหล่ง “เช็คอิน-กิน-เที่ยว” ในพื้นที่ที่ภาคตะวันออกดูแลซึ่งมีหลายมุมครบถ้วนทั้ง 5 ช.-ชม-ชิม-แชะ-แชร์-ช่วย โดยได้นำบล็อกเกอร์ชั้นนำของเมืองไทย 14 บล็อกเกอร์ ที่มีผู้ติดตามกว่า 2 ล้านคน แข่งขันกันลงพื้นที่นำเสนอ อาหารถิ่น สตรีทฟู้ด ร้านเด็ดดังในตลาดสด ร้านสไตล์คนรุ่นใหม่ แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ อารยธรรม สถานที่พักแนวใหม่ เพื่อสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเข้าสู่ชุมชนท้องถิ่นในเมืองรอยตะเข็บชายแดนที่กำลังมาแรง

ในปี 2560 ทั้ง 2 จังหวัด สามารถทำรายได้จากการท่องเที่ยวรวมกันกว่า 12,000 ล้านบาท ประกอบด้วย ปราจีนบุรี  มีนักท่องเที่ยว 1.7 ล้านคน รายได้ 4,500 ล้านบาท ส่วนจังหวัดสระแก้วมีนักท่องเที่ยว 2.7 ล้านคน สร้างรายได้ 7,500 ล้านบาท เนื่องจากเป็นเมืองค้าชายแดนจึงมีการขายค่อนข้างคึกคักมาก เป้าหมายปี 2561 โดยภาพรวมจะกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรองที่อยู่ในความดูแลของ ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออก มีรายได้เติบโตตามเป้าหมายหลั่งไหลเข้าสู่ท้องถิ่น 8-10 % โดยปูพรมเน้นสร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมของนักท่องเที่ยว และการกระตุ้นภาคเอกชนทุกกลุ่มในพื้นที่ร่วมมือกันสร้างสรรโปรดักซ์มัดใจตลาดทุกกลุ่ม

 

Advertisement

นายวิบูลย์กล่าวว่า จุดขายการท่องเที่ยวของจังหวัดสระแก้วครบเครื่องไฮไลต์ 5 มุม ได้แก่ 1.โบราณสถานปราสาท “สด็อกก๊อกธม” ซึ่งมีอายุราว 1,100 เก่าแก่กว่าเมืองมรดกโลกนครวัดของกัมพูชา 2.วัดดังชื่อเสียงโด่งดังอย่าง “วัดนครธรรม” มีหลวงพ่อขาวหรือหลวงพ่อปูนมีความศักดิ์สิทธิ์นักท่องเที่ยวชอบไปขอโชคลาภ 3.โรงเรียนกาสรกสิวิทย์ อำเภอเมืองสระแก้ว เป็นแหล่งเรียนรู้เกษตรและปศุสัตว์เป็นโรงเรียนฝึกสอนควายที่ชาวนานำมาใช้ทำการเกษตร 4.ตลาดโรงเกลือ มีสินค้ามากมายเหมาะกับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม ทั้งกลุ่มสูงวัย เจนวาย ครอบครัว และ 5.สตรีทฟู้ด มีชุมชนซึ่งเป็นแหล่งอาหารเวียดนาม เช่น ร้านยายต๊าม ผู้มีชื่อเสียงสาขาต่าง ๆ นิยมแวะรับประทาน เมนู ขนมเบื้องยวน แหนมเนือง และอีกหลายเมนูเด็ดๆ

 

ขณะที่จังหวัดปราจีนบุรี มีความโดดเด่นด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ธรรมชาติ อาหารถิ่น ไฮไลต์ 7 มุมใหม่ ได้แก่

1.โรงพยาบาลอภัยภูเบศร์ เป็นแหล่งสมุนไพรไทยที่โด่งดังไปทั่วโลก มีกิจกรรมสาธิตการทำผลิตภัณฑ์สมุนไพร นิทรรศการแสดงเรื่องราวความเป็นมาของโรงพยาบาลเชื่อมต่อกับอภัยภูเบศร์ในเมืองพระตะบอง กัมพูชา

2.พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสบายเป็นศูนย์รวมของสะสมตะเกียงเก่าแก่แต่ละยุคนับพันดวง

  1. แหล่งท่องเที่ยวศาสนา วัดแก้ววิจิตร ในอำเภอเมือง และ วัดรัตนเนตราราม อำเภอนาดี เป็นประติมากรรมวัดจากเปลือกหอยทะเลหลายชนิดวิจิตรงดงามเป็นงานพุทธศิลป์อย่างแท้จริง เนื่องจากหลวงพ่อได้นำเปลือกหอยหลายชนิดมาตกแต่งตั้งแต่บันไดไปจนถึงวิหารทำให้เกิดความตระการตาดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมาก

4.อาหาร ที่ “ร้านบ้านเล่าเรื่อง” ในอำเภอเมือง อายุเก่าแก่กว่า 70 ปี ของมูลนิธิโรงพยาบาลอภัยภูเบศร์ ตั้งอยู่ใกล้ศาลหลักเมือง มีเรื่องเล่าตำนานร้านอาหารแนะนำในปราจีนบุรีอยู่เกือบ 100 แห่ง ส่วนในร้านบ้านเล่าเรื่องมีบริการอาหารที่ใช้วัตถุดิบตั้งต้นเป็นสมุนไพรไทยปรุงเมนู อาหารจานคาว หวาน ของว่าง เครื่องดื่ม สมุนไพร ตำรับโบราณ แต่ละห้องภายในบ้านชั้นเดียวจัดทำเป็นนิทรรศการเล่าประวัติศาสตร์ความเป็นมาเมืองปราจีนบุรี สถานที่แห่งนี้ยังจะทำตลาดเชิงรุกใช้เป็นสถานที่จัดงานเลี้ยง ประชุม พรี-เวดดิ้ง ได้ด้วย และ ร้านสไตล์ชิค ๆ เทรนด์เก๋คือ “ร้านเดอย่า คาเฟ่”  นักเดินทางรุ่นใหม่นิยมไปชิมเค้ก กาแฟ เมนูซิกเนเจอร์ของร้าน และ “ร้านบ้านเนินน้ำ” อำเภอนาดี มีเมนูจานเด็ดผักกะเฉดชะลูดน้ำแห่งเดียวในประเทศ นำมาผัด ต้ม แกง นักท่องเที่ยวนิยมสั่งรับประทานทั้งคนไทยและต่างชาติ

ส่วนร้านสตรีทฟู้ดท้องถิ่นริมถนนรสชาติอร่อยรอบอำเภอเมืองปราจีนบุรีในตลาดสด ก็มี ร้านข้าว 3 หน้า-หมูแดง-ไก่-หมูกรอบ ทำมา 50 ปี ร้านพันธ์ทองไก่ทอด  ร้านสมาร์ทก๋วยเตี๋ยวหมูโบราณ ร้านหวานก็มี ร้านเค้กครัวนภา  ร้านข้าวเหนียวมะม่วงแม่สายหยุดในตลาดสดปราจีนบุรี ร้านข้าวเหนียวมูลแม่สายหยุด

5.สวนผลไม้-สวนทุเรียนนมสดลุงสำเภา ในหมู่บ้านเล็ก ๆ พื้นที่ปลูก 10 ไร่ มีทุเรียนรสเลิศซึ่งเกิดจากกรรมวิธีการปลูกแตกต่างจากสวนทั่วไปคือลุงสำเภาเจ้าของสวนวัยเกือบ 80 ปี ใช้นมสดปีละหลายหมื่นกระป๋องมารดเพื่อเพิ่มความ หวาน มัน หนึบเหนียว อร่อยกว่าทุเรียนภาคอื่น ๆ แต่ละปีให้ผลผลิตพร้อมรับประทานได้ช่วงเมษายน-พฤษภาคมของทุกปี

6.อ่างเก็บน้ำนฤบดินทร์จินดาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หรืออ่างเก็บน้ำห้วยโสมง ในตำบลแก่งดินสอ อ.นาดี ถือได้ว่าเป็นโครงการแหล่งน้ำในพระราชดำริโครงการสุดท้ายของในหลวงรัชกาลที่ 9 มีพื้นที่ขนาดใหญ่สวยงาม สามารถทำกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงกีฬาได้เป็นอย่างดี

7.สถานที่เชิงสุขภาพแนวใหม่ เป็นที่พักยอดนิยมเทรนด์ใหม่มาแรงของเมืองปราจีนบุรี คือ “เซเรนิตี้  โฮเต็ล สปา แอนด์ ออนเซ็น กบินทร์บุรี” ตั้งอยู่ที่อำเภอนาดี ปราจีนบุรี ภายในโรงแรมลงทุนสร้างบ่อแช่ออนเซ็นน้ำพุร้อนเพื่อสุขภาพสไตล์ญี่ปุ่น รองรับทั้งนักท่องเที่ยวคนไทยและชาวญี่ปุ่นระดับบริหารที่เข้ามาทำงานอยู่ในนิคมแถวกบินทร์บุรี เป็นรีสอร์ตสุขภาพระดับมาตรฐานสากล

ผอ.วิบูลย์ กล่าวในตอนท้ายว่า ได้นำทีม ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออก ททท.สำนักงานนครนายก จัดกิจกรรม “Travel Blogger Challenge 2018-เที่ยวตะวันออก เช็คอิน กิน เที่ยว” ให้เหล่าบล็อกเกอร์ชั้นนำของเมืองไทยแข่งขันกันนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวมุมใหม่ แล้วอัพโหลดเผยแพร่ผ่านออนไลน์แบบสด ๆ ทันที ได้แก่ โลคอลคอร์สไทยแลนด์, ไปไหนดี, เที่ยวไหมครับ, กิน-เที่ยว-ถ่าย, วันเดย์, วิศวะพาเที่ยว, พู่กันเจอร์นี่, นายสองสามก้าว, แพร่รีวิว, แฮงทูเก็ตเตอร์, เที่ยวให้ยับ เจอร์นี่อะฮอลิก และแฮงรีวิว สร้างการรับรู้ให้เข้าถึงนักท่องเที่ยวทั่วไทยภายในเวลา 2 วันได้ประมาณ 1.5 ล้านวิว หลังเสร็จสิ้นโครงการจะเดินหน้าจับมือกับผู้ประกอบการโรงแรม รีสอร์ต จัดทำแพกเกจท่องเที่ยวตลอดช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อเพิ่มยอดรายได้สู่ชุมชนเมืองรองเพิ่มขึ้นอีก 8-10 %

เรื่องและภาพโดย : เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน -บล็อกเกอร์ gurutourza

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image