เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ที่จ.ปัตตานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมือประกอบระเบิดระดับแกนนำสั่งการและปฏิบัติการคนสำคัญของกลุ่มก่อความไม่สงบ พร้อมสมาชิกรวม 3 คน นำโดยนายมือลี (นามจัดตั้ง ) ก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดชายแดนภายใต้มาแล้วกว่า 60 ครั้ง ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ติดต่อมอบตัวต่อทางราชการ โดยพล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 เดินทางรับตัวด้วยตนเอง เนื่องจากมีความเชื่อมันและไว้ใจในตัวแม่ทัพภาคที่ 4 ที่มีความตั้งใจจริงต่อการแก้ปัญหา รวมทั้งโครงการพาคนกลับบ้าน ที่มีกลุ่มผู้หลงผิดกล้าเข้าร่วมโครงการ
ลาสุด เมื่อเวลา 07.00น. พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และชุดเก็บกู้ระเบิด 15 นายเดินทางขึ้นเขากาหลง บริเวณสวนยาง บ้านกำปงบารู หมู่ที่ 10 ต.ศรีสาคร อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส เพื่อตรวจพิสูจน์ทราบหาวัตถุระเบิดอนุภาพรุนแรง น้ำหนัก 80 – 90 กิโลกรัม ที่ประกอบไว้ในถังแก๊สและติดตั้งวงจรต่อฉนวนระเบิดอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ตามที่นายมือลี (นามจัดตั้ง ) แกนนำมือประกอบระเบิดให้ข้อมูลเพิ่มเติม หลังจากการสอบถามข้อมูลและกางแผนที่ระบุจุดซุกซ่อนระเบิดที่เตรียมให้คนร้ายอีกชุดนำออกไปก่อเหตุ
ทั้งนี้หลังแม่ทัพภาคที่ 4 ได้รับข้อมูล จึงสั่งการให้จัดชุดกำลังทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครองที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เดินทางเข้าพื้นที่ทันที โดยใช้เส้นทางเลาะเทือกเขาผ่านสวนยางพารา ซึ่งเป็นพื้นที่สุ่มเสี่ยงถูกซุ่มโจมตีจากฝ่ายตรงข้าม เนื่องจากเป็นเส้นทางถนนที่อยู่ในภูมิประเทศเสียเปรียบกลางหุบ แต่เจ้าหน้าที่สามารถเดินทางเข้าตรวจพิสูจน์ทราบ และตัดวงจรระบบกระแสไฟจุดฉนวนออกจากถังประกอบระเบิดที่ตั้งระบบจุดฉนวนไว้ 4 แบบ เพื่อเลี่ยงการตัดสัญญาณจุดฉนวนระเบิดดังกล่าว
พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า ก่อนนี้ที่มีน้องๆกลุ่มเห็นต่างเข้ามอบตัวขอเข้าโครงการพาคนกลับบ้าน พร้อมมอบอาวุธปืนเอ็ม 16 และระเบิดนำหนัก 25 กิโลกรัม ถึงวันนี้มีผู้เข้ามามอบตัวแสดงเจตนารมความจริงใจร่วมพัฒนาประเทศอย่างเต็มที่ โดยขอกลับขึ้นเขาเพื่อนำระเบิดลูกใหญ่พร้อมใช้งานอีก 1 ลูกหนักประมาณ 80 – 90 กิโลกรัม จากการสอบถามทราบว่า มีแผนนำระเบิดลูกนี้ไปซุกซ่อนภายในรถแล้วขับไปจอดตามตึก หรือปั๊มน้ำมัน ซึ่งจะมีอำนาจการทำลายล้างรุนแรงมาก จึงเป็นความโชคดีมากที่น้องทั้ง 3 คนให้ข้อมูลและนำระเบิดมาให้เพื่อนำไปทำลาย 
“อยากบอกถึงน้องๆ ที่ยังคงหลงผิดกันอยู่ ได้มาร่วมโครงการพาคนกลับบ้าน มาช่วยกันพัฒนาบ้านเรา อยากให้ดูน้องทั้ง 3 คน ทราบว่าได้ถือศีลอดกันมาแล้ว ตอนนี้จะยิ่งได้บุญมากขึ้น เพราะครั้งนี้ได้ช่วยชีวิตผู้คนจำนวนมาก อีกทั้งเป็นนิมิตหมายที่ดี เพราะตั้งแต่เกิดสถานการณ์เหตุรุนมา 10 ปี ยังไม่เคยมีแบบนี้เลย เพราะเขามามอบทั้งกาย ใจ มีทั้งปืนและระเบิด ถือเป็นครั้งแรกในประวัตศาสตร์ก็ว่าได้ เพราะระเบิดที่เคยได้ก่อนนี้นั้นเป็นระเบิดที่สามารถเข้าตรวจสอบและยึดฐาน” พล.ท.ปิยวัฒน์ กล่าวและว่า
ส่วนสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งนี้ถือเป็นเรื่องสำเร็จตามโครงการพาคนกลับบ้านหรือไม่นั้น อยากให้ดูผลการปฏิบัติดีกว่า ตอนนี้ยังมีกลุ่มบุคคลพยายามโจมตีหาว่าโครงการไม่ดี เป็นการเรื่องคนทำผิดเป็นโจร อยากให้เข้าใจว่าทุกคนที่เข้ามานั้น ต้องผ่านการตรวจตามขั้นตอนที่เป็นกฎระเบียบ หากตรวจสอบว่ามีความผิดหมายอาญา เป็นเรื่องคดีต้องว่ากันไป เราจะช่วยเรื่องอำนวยความสะดวกและช่วยเหลือผู้ผ่านการตรวจสอบจาก 4 ฝ่ายแล้วว่าไม่มีความผิดจึงปลดหมาย ซึ่งเขาก็จะได้กลับไปอยู่บ้าน หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องจะมาดูแลสร้างงานสร้างอาชีพ
