ระทึกเรือนำเที่ยวชนโขดหิน 13 ชีวิตหวิดดับยกลำ
เมื่อเวลา 15.00 น วันที่ 17 มิถุนายน 2561 นายปณัย หนูแท้ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาชุมพร และ นายชูศักดิ์ จงงาม หัวหน้าหน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลชุมพร ได้รับแจ้งจากเรือตรวจประมง 342 ว่า เรือนำเที่ยวชื่อว่า “พรวารี 29/2” ประสบเหตุชนโขดหินบริเวณเกาะง่ามและเกาะทะลุ อ.เมือง จ.ชุมพร ระหว่างเดินทางกลับเข้าสู่ฝั่งหลังจากนำเรือพานักท่องเที่ยวออกไปเที่ยวทะเลและดำน้ำชมปะการังตั้งแต่ช่วงเช้า ขอให้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาชุมพร หน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลชุมพร และอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปเร่งให้ช่วยเหลือ จากนั้นทั้ง 3 หน่วยงานจึงนำเรือออกกระจายกำลังตามหาเรือนำเที่ยวลำที่ประสบเหตุ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็พบเรือจมอยู่บริเวณหัวเกาะทะลุ และทราบว่ามีผู้ประสบเหตุตกจากเรือทั้งหมด 13 ราย เป็นนักท่องเที่ยว 11 ราย คนดูแลนักท่องเที่ยว 1 รายและกัปตันผู้เป็นคนขับ 1 ราย จึงช่วยกันนำทั้งหมดขึ้นมาบนเรือตรวจประมงทะเล 324 ด้วยความปลอดภัย
จากการสอบถามพนักงานประจำเรือและนักท่องเที่ยวทราบว่า ขณะที่เรือนำเที่ยวปล่อยนักดำน้ำลงไปดำน้ำบริเวณจุดเรือหลวงปราบที่จมอยู่ใต้ทะเล พบเรือประมงอวนดำ ขนาดใหญ่มีสีขาวแดง คาดว่าเป็นเรือจากมหาชัย พุ่งตรงเข้ามาที่เรือนำเที่ยวของตน กัปตันเรือนำเที่ยวได้สั่งปลดเชือกและถอยเรือหลบ จึงทำให้เรือลำประมงดังกล่าวชนโขดหินบริเวณด้านหน้าของเกาะง่ามน้อย ส่วนเรือเรือนำเที่ยวหลังจากที่ถอยหลบหนีจากการชน ก็เวียนไปรับกลุ่มนักดำน้ำในอีกจุดหนึ่ง และกำลังจะนำเรือกลับเข้าฝั่ง แต่ช่วงดังกล่าวเกิดน้ำลดลงมากกว่าวันปกติ ทำให้ต้องใช้ดาวเทียมเป็นหลัก แต่ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นนั่นคือเรือนำเที่ยวได้ชนโขดหินใต้น้ำโดยที่มองไม่เห็น จากนั้นไม่ถึง 10 นาที น้ำก็เริ่มที่จะไหลเข้าท่วมห้องเครื่อง กัปตันจึงตะโกนบอกให้ผู้โดยสารทุกคนสวมเสื้อชูชีพและให้เก็บของเพื่อเตรียมสละเรือ แล้วนักท่องเที่ยวทั้ง 11 ราย ก็ได้เก็บของสัมภาระเท่าที่จำเป็น และสวมเสื้อชูชีพ ก่อนทยอยกระโดดลงจากเรือ ลอยคออยู่ในทะเลจนทีมช่วยเหลือจากทั้ง 3 หน่วยงาน เข้าไปช่วยเหลือได้ทั้งหมด โดยไม่มีใครได้รับอันตราย
นายปณัย หนูแท้ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาชุมพร กล่าวว่า เรือนำเที่ยวได้นำนักท่องเที่ยวไปดำน้ำบริเวณเกาะง่ามน้อยเกาะง่ามใหญ่ แต่เกิดชนเข้ากับโขดหินใต้น้ำรอบๆ เกาะ ทำให้เรือรั่ว กัปตันจึงรีบนำเรือกลับเข้าฝั่ง แต่น้ำได้ทะลักเข้าสู่ตัวเรือจนจมลงบริเวณหัวเกาะทะลุ ส่วนนักท่องเที่ยว กัปตันเรือ และพนักงานประจำเรือทั้ง 13 คน ต่างชื่นชมการเข้าช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปปฏิบัติการได้อย่างรวดเร็ว จึงไม่เกิดการสูญเสียชีวิตแม้แต่คนเดียว มีเพียงทรัพย์สินบางส่วนและเรือนำเที่ยวเท่านั้นที่ได้รับความเสียหาย
