บึงกาฬ-นครพนม ตรวจเข้มสถานประกอบการหลังหมดเขตขึ้นบัญชีต่างด้าว

เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 2 กรกฎาคม เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสวัสดิการและแรงงานจังหวัดบึงกาฬ ร่วมกับ จัดหางานจังหวัดบึงกาฬ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดบึงกาฬ สนธิกำลังกับทหารรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดบึงกาฬ ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองบึงกาฬ ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.บึงกาฬ และ กอ.รมน. ร่วมกันเข้าสุ่มตรวจสอบสถานประกอบการร้านคาราโอเกะ ในเขตพื้นที่อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ เพื่อเป็นป้องปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยการค้ามนุษย์ คนเข้าเมือง การทำงานของคนต่างด้าว และกฎหมายอื่นๆ หลังจากที่ผ่านมารัฐบาลผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวสามารถอยู่ในราชอาณาจักรเพื่อขอรับการตรวจลงตรา (Visa) กับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ขออนุญาตทำงานกับกรมจัดหางาน จัดทำ/ปรับปรุงทะเบียนประวัติกับกรมการปกครอง และพิสูจน์สัญชาติที่หน่วยพิสูจน์สัญชาติของประเทศต้นทางให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 มิ.ย. 61

ซึ่งหากนายจ้างไม่นำแรงงานต่างด้าวมาดำเนินการตามเวลาที่กำหนด แรงงานต่างด้าวจะอยู่และทำงานต่อไปได้ไม่ได้ ขณะเดียวกันทั้งนายจ้างและแรงงานต่างด้าวจะมีความผิดตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 นายจ้างที่จ้างแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย มีโทษปรับ 10,000-100,000 บาทต่อแรงงานต่างด้าว 1 คน หากกระทำผิดซ้ำต้องมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับตั้งแต่ 50,000 – 200,000 บาท และห้ามจ้างแรงงานต่างด้าวเป็นเวลา 3 ปี ขณะที่คนต่างด้าวทำงานจะมีความผิดมีโทษ 5,000 – 50,000 บาท และเมื่อชำระค่าปรับแล้ว คนต่างด้าวจะถูกส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักร

โดยจากการตรวจสอบพบคนต่างด้าวมีเอกสารการทำงาน ถือบัตรสีชมพู ไม่พบบุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่า 18 ปี ทำงานอยู่ในร้าน ไม่ปรากฏการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมายแต่อย่างใด จึงได้มีการประชาสัมพันธ์ แจ้งให้ผู้รับผิดชอบดูแลร้านทราบ และขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการให้ดำเนินกิจการภายใต้กรอบของกฎหมาย ไม่ให้มีการค้าประเวณี และการนำเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีมาทำงานเป็นอันขาด และให้ลูกจ้างต่างด้าวทำงานให้ถูกต้องตามใบอนุญาต หากฝ่าฝืนจะต้องถูกดำเนินคดีถึงที่สุด

ส่วนที่จังหวัดนครพนม มีรายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 1 กรกฎาคม 2561 ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดนครพนม ศูนย์ราชการกระทรวงแรงงาน อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม พันเอก ชัยพฤกษ์ กองสมบัติ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดนครพนม (ท.) เป็นประธานปล่อยแถวและนำชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจตรวจสอบ ปรามปราม จับกุมและดำเนินคดีแรงงานต่างด้าวลักลอบทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตและการค้ามนุษย์จังหวัดนครพนม ลงพื้นที่อำเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม

Advertisement

โดยการลงพื้นที่ในครั้งนี้ เพื่อตรวจสอบสถานประกอบการในการให้นายจ้างและแรงงานต่างด้าวปฏิบัติตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2561 ที่มีผลบังคับใช้ทุกมาตราในวันที่ 1 กรกฎาคม 2561 อย่างเคร่งครัด หลังสิ้นสุดวันที่รัฐบาลมีการผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวไปขึ้นทะเบียนประวัติ จัดทำฐานข้อมูล และพิสูจน์สัญชาติให้เรียบร้อย คือวันที่ 30 มิถุนายน 2561 ซึ่งถ้าผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมายจะมีโทษ เช่น คนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิ์จะทำได้ มีโทษปรับตั้งแต่ 5,000 ถึง 50,000 บาท ผู้ใดรับคนต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตทำงานเข้าทำงาน หรือให้คนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิ์จะทำได้ มีโทษปรับตั้งแต่ 10,000 ถึง 100,000 บาท ต่อคนงานต่างด้าวที่จ้าง 1 คน ผู้ใดรับคนต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตทำงานเข้าทำงาน หรือให้คนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิ์จะทำได้(ผิดครั้งที่2) มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับตั้งแต่ 50,000 ถึง 200,000 บาท ต่อคนต่างด้าวที่จ้าง 1 คน หรือทั้งจำทั้งปรับและห้ามไม่ให้มีการจ้างคนต่างด้าวทำงานอีกเป็นเวลา 3 ปี เป็นต้น

ทั้งนี้ชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจฯ จะมีการเพิ่มความถี่ในการออกตรวจตามสถานประกอบการมากยิ่งขึ้น เพื่อให้การบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวของจังหวัดนครพนมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image