เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ กองอำนวยการร่วม ช่วยเหลือเยาวชนและโค้ชทีมฟุตบอลหมูป่า อะคาเดมี่ ที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง ภายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา แถลงว่า ปฏิบัติการในการค้นหาทีมหมูป่าอะคาเดมี่ มีดราม่าเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เช่นข่าวว่ามีอาสาสมัครเจ้าหน้าที่บางส่วนถูกขัดขวางไม่ให้เข้าไปช่วย เรื่องนี้เกี่ยวกับการขุดเจาะน้ำบาดาล ซึ่งภารกิจนี้ได้ผลดี แต่กองอำนวยการร่วมพิจารณาแล้วการเจาะบาดาลต้องไปทำจุดอื่นไม่ใช่หน้าถ้ำ โดยเมื่อวานมีอาสาสมัครจะเข้าไป แต่ถูกห้ามเพราะไม่ได้ขึ้นแผนปฏิบัติกับกองอำนวยการร่วม ตนเข้าใจทุกคนว่าอยากช่วย แต่ที่นี่คือสนามรบจริง รบกับเวลาและน้ำ เพื่อช่วยเหลือ 13 ชีวิตออกมาให้ได้ จึงไม่ใช่สถานที่ซ้อมที่ใครจะมาโชว์ฝีมือ ทั้งหมดต้องอยู่ในแผนร่วม ต้องมาลงทะเบียนแล้วศูนย์ประสานงานจะแบ่งทีมงานเป็นระบบ ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ ใครมาทำโดยพลการ ไม่เข้าแผนอาจทำให้เสียหาย เสียเวลา และตนไม่ขอรับผิดชอบหากไม่ทำตามระบบของแผนงานนี้ เพราะทุกคนต้องเข้าแผน ยกตัวอย่างที่ดี ทีมสูบน้ำเครื่องพญานาคจากลพบุรีและนครปฐมมาวันแรกตนไม่ให้ทำ เพราะเรายังไม่สามารถเข้าแผนได้ เขาก็รอด้วยจิตอาสาถึง 3 วันจึงนำเข้าแผน ช่วยสูบน้ำได้มหาศาล ประสิทธิภาพสูงมาก ต้องขอบคุณที่รอ
ผจว.เชียงรายกล่าวว่า แต่กลุ่มที่มีปัญหาคือ กลุ่มเจาะน้ำบาดาล เคยเข้าไปในถ้ำเมื่อวันพุธที่ผ่านมาแล้วทำนอกแผน หายตัวไปในถ้ำ 4 คน แล้วเกิดเหตุน้ำทะลักสูงในคืนนั้น หายไป 4 คน เราต้องระดมกำลังตามหา 4 คนนี้จนบ่ายวันพฤหัสบดีมีทีมดำน้ำจากอังกฤษไปพบตัวในถ้ำ นี่คือตัวอย่างหากไม่เข้าแผน ทำนอกแผน ภารกิจหลักตามหา 13 ชีวิตต้องเสียเวลากับอีกเรื่องโดยไม่จำเป็น เราไม่ต้องการเสี่ยง และสูญเสียใดๆ ทั้งนั้น อีกเรื่องเมื่อคืนที่ผ่านมามีอาสาสมัครกลุ่มหนึ่งไม่แจ้งในแผน ทำงานกันเอง ไม่ผ่านกองอำนวยการร่วมฯ ขึ้นไปสำรวจหาโพรงบนเขาแล้วลื่นล้มตกทางเขาได้รับบาดเจ็บ เรียกขอกำลังจากเราไปช่วย เราใช้เวลา 3 ชั่วโมงนำตัวออกมาส่งโรงพยาบาลเชียงรายฯ เราต้องไปช่วยทั้งที่ทำนอกแผนไม่อยู่ในร่มธงของเรา อย่าลืมว่าเรากำลังทำภารกิจสำคัญมากที่เสียเวลาไม่ได้เลย เราคิดว่าเด็กๆ ในถ้ำคือลูกของเรา
