ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดแพร่ เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 8 กรกฎาคมว่า นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และคณะ เดินทางมายังจังหวัดแพร่ ในการตรวจเยี่ยมความคืบหน้าโครงการก่อสร้างถนนทางหลวงโครงการในจังหวัดแพร่ และ โครงการถไฟรางคู่เด่นชัย-เชียงราย ซึ่งมีบริษัท เอ็ม เอ เอ คอนเซาท์แทนซ์ เป็นบริษัท ออกแบบและศึกษาผลกระทบของโครงการดังกล่าว โดยในวันนี้ มีนาย เอกสิทธิ์ ป.สัตยารักษ์ วิศวกรโครงการ สรุปโครงการ ณ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการนำเสนอ ครม.อีกครั้ง ในการประชุมสัญจร ในวันที่ 26 กรกฎาคม ที่จังหวัดเชียงราย โดยความคืบหน้าล่าสุดในขณะนี้ สถานีทั้งหมด มีจำนวน 26 สถานี สถานีใหญ่จำนวน 4 สถานี สถานีขนาดเล็ก จำนวน 9 สถานี ป้ายหยุดรถไฟจำนวน 13 สถานี ในส่วนของจังหวัดแพร่ และมีสถานีขนถ่ายสินค้าทั้งหมด 6 สถานี อุโมงค์ลอดจำนวน 3 แห่ง อุโมงค์ที่ยาวที่สุดจะอยู่ในพื้นที่จังหวัดแพร่ ในเขตอำเภอสองความยาวประมาณ6.4 กิโลมเมตร และจะเป็นอุโมงค์ลอดทางรถไฟที่ยาวที่สุดในประเทศไทย อีกสองแหร่ง อยู่ที่ อ.เมืองจ.พะเยา ความยาว 2.8 กม และ ที่อำเภอดอยหลวง จ.เชียงราย ความยาว 3.6 กม
นายอาคม กล่าวว่า สำหรับโครงการดังกล่าว มีความยาวทั้งสิ้น 323 กิโลเมตร ผ่านพื้นที่ 59 ตำบล 17 อำเภอ 4 จังหวัด คือ แพร่ ที่เป็นจุดเริ่มต้นเส้นทาง ลำปาง พะเยา และเชียงราย คือจุดสิ้นสุด ประเด็นที่ให้ความสำคัญคือสถานีขนถ่ายสินค้าในพื้นที่จังหวัดแพร่ อยู่เขต อ.เมืองแพร่ ได้มีการสอบถามถึงความเหมาะสม ของสถานีเด่นชัยด้วยเนื่องจากเป็นชุมทางในการขนส่งทางรถไฟที่ดีในอดีต ส่วนงบประมาณการก่อสร้างแยกเป็นราคาก่อสร้างทางวิศวกรรม ซึ่งรวมค่าจ้างที่ปรึกษา จำนวน 74,685 ล้านบาท ราคาค่าเวนคืนที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จำนวน 7,035 แปลง เนื้อที่ 9,661 ไร่ รวมมูลค่าโครงการทั้งสิ้น 85,345 ล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้าง หากทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ จะใช้เวลา 4 ปี และเปิดให้ใช้ได้ในปี 2566
นายอาคมกล่าวว่า นอกจากนั้น ยังได้ตรวจสอบความคืบหน้า ในเรื่องของปรับปรุงประสิทธิภาพถนนโครงข่ายคมนาคมในพื้นที่จังหวัดแพร่และจังหวัดน่านเป็น 4 ช่องจราจร เพื่อความปลอดภัยและรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะทางหลวงหมายเลข 11 ตอนเด่นชัย – ลำปาง, ทางหลวงหมายเลข 101 แพร่ – น่าน และทางหลวงหมายเลข 103 ตอนร้องกวาง – งาว และตรวจความพร้อมการให้บริการประชาชนของท่าอากาศยานแพร่ ในอนาคต
