เหลือเชื่อ! พ่อ ‘น้องดอม’ หมูป่า ยัน 32 ปีที่แล้ว เข้าถ้ำหลวงออกจากปล่องเลย ‘เนินนมสาว’

เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือทีมหมูป่าอะคาดามี่แม่สาย 1 ใน 13 คนที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย มาตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมาจนปลอดภัยทุกคนแล้วนั้น พบว่าในปัจจุบันยังไม่มีหน่วยงานหรือองค์กรใดระบุได้ว่ามีช่องหรือปล่องจากภายนอกที่จะเชื่อมต่อกับภายในถ้ำหลวงได้นอกเหนือจากปากทางเข้าถ้ำบริเวณสำนักงานวนอุทยานถ้ำหลวงเพียงจุดเดียว

นายบรรพต ก้อนคำ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 776/1 หมู่ 1 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย บิดาของ ด.ช.ดวงเทพ พรมเทพ อายุ 13 ปี นักเรียนโรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์และกัปตันทีมหมูป่าอะคาดามี่แม่สาย 1 ใน 13 คนที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง เปิดเผยเมื่อครั้นที่ตนยังเยาว์วัยอายุเท่ากับบุตรชาย เคยไปเที่ยวที่ถ้ำหลวงบ่อยครั้งมากซึ่งก็คงจะเป็นไปตามประสาเด็กเหมือนลูกที่อยู่ในวัยอยากรู้อยากเห็นและผจญภัย กระทั่งในช่วงฤดูแล้งเมื่อประมาณ 32 ปีก่อนตนได้ร่วมกับเพื่อนๆ รวม 8 คน โดยเป็นชาย 4 คนและหญิง 4 คนเดินเข้าไปถ้ำ ผ่านจุดที่เรียกว่าโถงที่ 3 และสามแยกลึกจากปากถ้ำประมาณ 3 กิโลเมตรดังกล่าวเข้าไปลึกมาก แต่สมัยนั้นไม่ได้มีการตั้งชื่อเป็นจุดต่างๆ เหมือนในปัจจุบันและไม่มีใครรู้จักพัทยาบีช

นายบรรพตกล่าวว่าเมื่อเดินผ่านสามแยกเข้าไปไกลมากก็ได้พยายามหาทางออกโดยไม่ต้องออกมาทางหน้าถ้ำเหมือนเดิมเพราะเราเข้าไปลึกมาก ก็ได้พบกับปล่องขนาดกว้างเท่าคนลอดได้และไม่ลึกเกินไป โดยเป็นรูอยู่สูงจากพื้นและใช้การปีนป่ายขึ้นไปบนเนินสูงคล้ายเนินนมสาวที่บุตรชายของตนและคนอื่นๆ ติดอยู่ช่วงน้ำท่วม ซึ่งพวกเราก็พากันลอดออกมาทีละคนๆ จนครบหมด สามารถออกจากถ้ำได้และพบกับที่โล่งกว้างใหญ่โดยไม่เป็นป่าเขาสูงชันเหมือนเดิมซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าแปลกประหลาดใจมาก รวมทั้งพบกระท่อมเหมือนบ้านหลังเล็กๆ อยู่บริเวณนั้น เมื่อพวกตนไปถามหาเส้นทางกลับบ้านก็มีผู้เฒ่าออกมาจากหลังบ้านแล้วชี้เส้นทางกลับให้พวกตนก็เดินทางกลับจนเดินออกมาถึงถนนพหลโยธินโดยไม่ต้องออกทางปากถ้ำเลย

นายบรรพตกล่าวอีกว่า จากนั้นตนกับเพื่อนๆ ก็ยังไปเที่ยวถ้ำหลวงอีกหลายครั้งแต่ก็ไม่ได้เข้าไปลึกเหมือนเดิมอีก และเมื่อเดินทางผ่านถ้ำหลวงหรือแม้แต่ช่วงที่บุตรชายติดในถ้ำตนก็ยังคิดถึงเรื่องปล่องนี้อยู่เสมอ จึงเคยนำไปแจ้งให้เจ้าหน้าที่ช่วยค้นหาหลายครั้งแต่ก็หากันไม่พบ ซึ่งอาจเป็นไปได้ที่ปล่องดังกล่าวได้ถูกทับถมหายไปตามกาลเวลาเพราะผ่านมาร่วม 32 ปีแล้ว กระนั้นทุกวันนี้ตนก็ยังคงระลึกถึงเหตุการณ์และขอบคุณผู้เฒ่าคนนั้นที่ช่วยบอกเส้นทางเพราะไม่เช่นนั้นพวกตนก็คงจะกลับมาออกมาจากป่าไม่ถูก

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image