กรณีมีข้อความโพสต์ลงในโลกโซเชียล เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบโครงการจัดที่ดินทำกินให้ราษฎรในเขตพื้นที่ป่าชายเลน หมู่ที่ 9 ตำบลท่าซัก อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช เนื่องจากโครงการดังกล่าว เป็นการจัดสรรพื้นที่ให้กับผู้ที่ไม่มีที่ดินทำกิน แต่มีนายทุนบุกรุกพื้นที่โดยใช้รายชื่อญาติพี่น้องและเพื่อนเข้ามาสวมสิทธิ์ รายละ 300-500 ไร่ ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ที่ไม่มีที่ดินทำกิน ต่างไม่ทราบว่ามีโครงการดังกล่าว ส่งผลให้นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ออกมาชี้แจงทุกอย่างปฏิบัติเป็นไปตามขั้นตอนตามหลักเกณฑ์ นั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2561 ที่ผ่านมา บริเวณศาลาประชาคม ม.9 ต.ท่าซัก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ผู้ใหญ่บ้าน ม. 6, 7 และ 9 ได้เรียกประชุมลูกบ้านกว่า 100 คน เพื่อหารือถึงการจัดสรรที่ดินทำกินโครงการจัดที่ดินทำกินให้ราษฎรในเขตพื้นที่ป่าชายเลน หมู่ที่ 9 ตำบลท่าซัก อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
ผู้นำท้องที่รายหนึ่งระบุว่า โครงการดังกล่าวดี มีเจตนาที่ดี แต่ขั้นตอนการปฎิบัติในพื้นที่ไม่ดี ไม่โปร่งใส มีเงื่อนงำ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2559 ล่าสุดอธิบดีกรมทรัพย์ฯออกมาชี้แจงว่า กรม ทช. ได้ออกหนังสืออนุญาตฯ ให้จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 9,814–1-04 ไร่ 643 แปลง สำหรับในท้องที่หมู่ที่ 9 ตำบลท่าซัก จำนวน 2,092 ไร่ 108 แปลง และคณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้แต่งตั้งคณะทำงานภายใต้คณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัดนครศรีธรรมราช ตามคำสั่งที่ 2580/2560 ลงวันที่ 20 กรกฎาคม. 2560 เรื่อง แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานการจัดที่ดิน เพื่อพิจารณารายชื่อ ราษฎรที่มีคุณสมบัติ และจัดคนลงรายแปลง โดยมีนายอำเภอท้องที่เป็นประธานและผ่านการประชุมประชาคมของแต่ละหมู่บ้านแล้ว นี่คือการชี้แจงที่เป็นเท็จ ความจริงในพื้นที่ยังไม่มีการทำประชาคมแต่อย่างใด ไม่มีขั้นตอนการปฏิบัติในการจัดสรรที่ดินป่าชายเลนให้แก่ผู้ยากไร้
“ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบโครงการจัดสรรที่ดินทำกินแก่ผู้ยากไร้ ในพื้นที่ มีการดำเนินการแบบมีเงื่อนงำ ไม่โปร่งใส หลังจากมีรายชื่อของผู้รับสิทธิ จำนวน 108 ราย ผ่านการพิจารณาได้รับที่ดินทำกิน ล้วนเป็นผู้บุกรุกเดิมและเครือญาติรวมถึงคนนอกพื้นที่ด้วยส่วนหนึ่ง ส่วนผู้ยากไร้ในพื้นที่ยังไม่ได้รับรู้เรื่องราวดังกล่าวแต่อย่างใด พวกตนในฐานะที่เป็นผู้นำในพื้นที่ยังไม่รับรู้เรื่องการประชาคมแต่อย่างใดเช่นกัน”
ผู้นำรายเดิมกล่าว พวกเราจึงอยากร้องผ่านสื่อมวลชนว่า คนในพื้นที่ไม่รู้เรื่อง ข้างบนอาจจะได้รับรายงานจากกระดาษ แต่ข้อเท็จจริงข้างบนไม่ทราบ รู้แต่ว่างานตามโครงการเสร็จสิ้นตรงตามวัตถุประสงค์เท่านั้น และว่าเร็วๆนี้พวกเราชาวบ้านจะเดินทางขึ้น กทม.เพื่อแจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนได้รับทราบ เรื่องจริงอยู่แบบใด หรือ อาจจะเกิดแรงกระเพื่อมในพื้นที่ ชาวบ้านท่าซักยอมไม่ได้เช่นกัน
