‘เซินติญ’ ถล่มสังขละบุรีท่วมทั้งอำเภอ หน.วิเชียรเผย สนง.ทุ่งใหญ่นเรศวรท่วมถึงชั้น 2

เซินติญถล่ม อ.สังขละบุรี ท่วมเกือบทั้งอำเภอ ขณะที่บ้านสะเนพ่องถูกตัดขาด เหตุน้ำท่วมสะพานแขวน ส่วน “หน.วิเชียร” เผย สนง.ถูกน้ำท่วมชั้นที่ 2 แล้ว ด้าน ผวจ.เร่งสั่งการ ปภ.นำกำลังพร้อมเรือท้องแบนลุยเข้าพื้นที่ด่วน เบื้องต้นพบเดือดร้อนกว่า 300 หลังคาเรือน

เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าว จ.กาญจนบุรี รายงานว่า พายุโซนร้อน เซินติญ (SON-TINH) ส่งผลให้ในหลายพื้นที่ของ จ.กาญจนบุรี เกิดฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องติดต่อกันหลายวัน โดยเฉพาะในเขตพื้นที่อำเภอสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เป็นเหตุทำให้ถนนสาย 323 ถูกดินโคลนถล่มลงมาจากภูเขาปิดเส้นทางการจราจรหลายจุด นอกจากนี้บ้านเรือนประชาชน สถานที่ราชการ เช่น โรงเรียน สถานีอานามัย รวมทั้งวัด ถูกน้ำท่วมสูงขยายวงกว้าง

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ตำบลไล่โว่ อำเภอสังขละบุรี พบว่าทวีความรุนแรงขึ้น หลังพบพื้นที่ถูกน้ำท่วมทั้งหมด 3 หมู่บ้าน ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร ส่งผลให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก หลังจากได้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่บ้านสะเน่พ่อง หมู่ที่ 1 ตำบลไล่โว่ อำเภอสังขละบุรี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาโดยน้ำจากพื้นที่ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรได้ไหลทะลักมาตามลำห้วยโรคี่ ก่อนจะเอ่อล้นท่วมสะพานแขวนทางเข้าหมู่บ้านสะเน่พ่อง จนชาวบ้านไม่สามารถใช้สัญจรไปมาได้ และมีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมนับร้อยหลังคาเรือน

Advertisement

ขณะที่บริเวณสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ หรือสะพานมอญ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง มีปริมาณน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยกระแสน้ำได้พัดนำพาเศษสวะและกิ่งไม้มาติดที่เสาสะพานเป็นจำนวนมาก ขณะนี้เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลวังกะ รวมทั้งอำเภอสังขละบุรี เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สังขละบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำลังระดมกำลังนำเรือยนต์ออกไปเร่งเก็บเศษสวะเหล่านั้นให้พ้นจากเสาสะพานเป็นการเร่งด่วนอยู่ในขณะนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เศษสวะและกิ่งไม้ปะทะกับเสาสะพาน ซึ่งอาจส่งผลให้โครงสร้างสะพานได้รับความเสียหายเหมือนเมื่อครั้งเหตุการณ์เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2556 ที่เสาของสะพานไม่สามารถต้านเศษสวะและกิ่งไม้จำนวนมากที่ไหลมาปะทะจนเป็นเหตุให้สะพานพังถล่มขาดเป็น 2 ท่อนในที่สุด

ทั้งนี้ นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ในฐานะ ผอ.ศูนย์อำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้สั่งการให้นายอารุณ ปินตา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสารธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี เร่งประสานขอความอนุเคราะห์รับการสนับสนุนเรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์จำนวน 3 ลำ พร้อมเสื้อชูชีพจำนวน 30 ตัว จากผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 2 สุพรรณบุรี เพื่อร่วมปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยดังกล่าวแล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างการเดินทาง

นายอารุณ ปินตา เปิดเผยเบื้องต้นว่า จังหวัดกาญจนบุรีได้รับการประสานจากอำเภอสังขละบุรีเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2561 ว่า เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่หมู่ 1 บ้านสะเนพ่อง ต.ไล่โว่ เบื้องต้นมีราษฎรได้รับความเดือดร้อนกว่า 100 ครัวเรือน ซึ่งการเดินทางเข้าไปให้ความช่วยเหลือจะต้องใช้เรือท้องแบนเท่านั้น

Advertisement

ล่าสุดเมื่อเวลา 14.30 น. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตกว่า หลายวันที่ผ่านมาฝนได้ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง แต่ตกไม่หนักมากนัก และเมื่อถึงวันที่ 19 กรกฎาคม ต่อเนื่องมาถึงวันนี้ 20 กรกฎาคม ปรากฏว่าฝนได้ตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่อง ทำให้น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่บ้านสะเนพ่อง รวมทั้งเข้าท่วมอาคารสำนักงานที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ดังนั้นเจ้าหน้าที่จำเป็นจะต้องเดินทางออกมาก่อน ล่าสุดปริมาณของน้ำได้ท่วมสูงขึ้นถึงชั้นที่ 2 ของอาคารแล้ว

นอกจากนี้ยังพบว่าบริเวณเชิงเขาติดกับถนนสาย 323 ก่อนจะถึงตัวอำเภอสังขละบุรี ก็ถูกดินโคลนถล่มลงมาปิดถนนทำให้ประชาชนไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ซึ่งทางนายปกรณ์ กรรณวัลลี นายอำเภอสังขละบุรี ได้ประสานไปยัง อบต.ไล่โว่ ให้นำกำลังและอุปกรณ์ต่างมาช่วยเคลียร์พื้นที่เพื่อให้กลับมาใช้ถนนได้ตามเดิมแล้ว และทราบว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย

ล่าสุด นายสมชาย วุฒิพิมลวิทยา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลไล่โว่ พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนตำบลไล่โว่ได้เดินทางลงสำรวจพื้นที่ความเสียหายโดยวิธีการเดินเท้า พบว่ามีพื้นที่ถูกน้ำท่วมจำนวนทั้งหมด 3 หมู่บ้าน ประกอบด้วย พื้นที่หมู่ 2 บ้านสะเน่พ่อง พื้นที่หมู่ 3 บ้านเกาะสะเดิ่ง และพื้นที่หมู่ 6 บ้านจะแก โดยระดับน้ำสูงมากกว่า 1 เมตร ได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนประชาชน วัดและโรงเรียนในพื้นที่ ทำให้โรงเรียนต้องหยุดการเรียนการสอน ชาวบ้านไม่สามารถออกจากบ้านได้และต้องอาศัยอยู่แต่บนชั้นสองของบ้าน ขาดแคลนอาหารและน้ำดื่ม เบื้องต้นคาดว่ามีประชาชนได้รับเดือดร้อนกว่า 300 หลังคาเรือน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนตำบลไล่โว่ ได้นำความช่วยเหลือเบื้องต้นไปให้กับชาวบ้านอย่างเร่งด่วน พร้อมกันนี้ได้ประสานความร่วมมือกับทางอำเภอสังขละบุรีและทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า เพื่อนำเรือท้องแบนเข้าไปอพยพชาวบ้านที่ติดอยู่ตามบ้านเรือนออกมาพักอาศัยที่วัดและองค์การบริหารส่วนตำบลไล่โว่ อย่างเร่งด่วนต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image