กรมชลฯแจ้งสถานการณ์น้ำ 7 จว.เหนือ-อีสาน พร้อมช่วยเหลือพ.ท.ประสบอุทกภัย

เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศแจ้งเตือนหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่อ่อนกำลังจากพายุดีเปรสชัน“เซินติญ” (SON-TINH) ปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน ส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสมที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งไว้ด้วย นั้น จากสถาพฝนดังกล่าว ทำให้ระดับน้ำในลำห้วยลำคลองต่างๆเพิ่มสูงขึ้นจนเอ่อล้นเข้าท่วมบางพื้นที่ ในจังหวัดร้อยเอ็ด ยโสธร นครพนม บึกกาฬ เลย พิษณุโลก และน่าน สรุปได้ดังนี้

จังหวัดร้อยเอ็ด จากสถานการณ์น้ำที่ไหลเข้าท่วมพื้นที่ 2 ฝั่งริมลำน้ำยัง หลังคันดินพนังกั้นน้ำยังบริเวณบ้านท่าเยี่ยม ต.วังหลวง อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด เกิดน้ำกัดเซาะจนทรุดตัวค่อยๆขาดกว้างประมาณ 30 เมตร (ตั้งแต่วันที่16 ก.ค. 61) ส่งผลให้ลำน้ำยัง(ฝั่งซ้าย) มีพื้นที่ประสบอุทกภัยรวม 5,000 ไร่ บริเวณต.เหล่าน้อย อ.เสลภูมิ (โดยพื้นที่ดังกล่าวอยู่นอกเขตคันพนังป้องกันอุทกภัยลำน้ำยัง) ส่วนลำน้ำยัง(ฝั่งขวา)มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการไหล่บ่าของน้ำประมาณ 18,000 ไร่ ซึ่งปริมาณน้ำจะไหลผ่านที่นาลงห้วยวังหลวง ห้วยชัน ไปสะสมกับปริมาณน้ำที่บึงเกลือ และไหลล้นข้ามอาคารระบายน้ำล้น ก่อนไหลลงสู่ลำน้ำยังตามลำดับ

สถานการณ์การน้ำในลำน้ำยังวันเดียวกันนี้ ที่สถานีวัดน้ำ E.92 บ้านท่างาม อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 0.98 เมตร ปริมาณน้ำไหลผ่าน 373.20 ลูกบาศก์เมตร/วินาที แนวโน้มระดับน้ำเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
สำหรับการให้ความช่วยเหลือ กรมชลประทานโดยโครงการชลประทานร้อยเอ็ด ได้ทำการจัดจราจรลำน้ำยัง โดยลดการระบายน้ำด้านเหนือ เพิ่มการระบายน้ำด้านท้ายให้รวดเร็วขึ้น พร้อมติดตตั้งเครื่องผลักดันน้ำจำนวน 6 เครื่อง ในลำน้ำยัง เพื่อเร่งการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำชีตอนล่างมายังแม่น้ำมูล และไหลลงสู่แม่น้ำโขงต่อไป อีกทั้งยัง นำวัสดุ เครื่องมือเครื่องจักรกล ประกอบด้วย เข็มไม้ยูคาลิปตัส จำนวน 200 ต้น, Sheet pile จำนวน 40 แผ่น, Big bag จำนวน 800 ใบ, กล่อง Gabion จำนวน 400 ชุด, หินใหญ่ 400 ลบ.ม., รถขุด (backhoe) จำนวน 8 คัน และรถบรรทุก จำนวน 10 คัน ทั้งนี้ ได้ลำเลียงกล่องเกเบี้ยน(Gabion)เข้าเพิ่มเติมในพื้นที่อีกกว่า 300 กล่อง เข้าปิดกั้นจุดที่พนังฯเสียหาย ล่าสุด(เวลา 06.00 น. วันที่ 20 ก.ค. 61)ได้ดำเนินการซ่อมแซมปิดช่องพนังกั้นน้ำที่ขาดไปแล้วประมาณ 28 เมตร ซึ่งจะเร่งดำเนินการปิดช่องพนังกั้นลำน้ำยังที่ขาดให้แล้วเสร็จภายในวันนี้(20 ก.ค. 61)

จังหวัดยโสธร เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ติดต่อกันในช่วงวันที่ 10 – 13 ก.ค. 61 ทำให้น้ำจากลำน้ำลำเซบายเอ่อล้นบริเวณด้านเหนือฝายและท้ายฝายกั้นน้ำลำเซบายไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่การเกษตรลุ่มต่ำประมาณ 2,800 ไร่ ใน 3 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านโพธิ์ศรี และบ้านโพธิ์ไทร ต.โพธิ์ไทร และบ้านกุดสำโรง ต.ศรีฐาน อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร ปัจจุบันสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำลำเซบายที่สถานี M.32 อ.ป่าติ้ว มีปริมาณน้ำ 215 ลูกบากศ์เมตร/วินาที ต่ำกว่าตลิ่ง 0.05 เมตร แนวโน้มระดับน้ำเริ่มทรงตัว

Advertisement

ทั้งนี้ กรมชลประทานโดยโครงการชลประทานยโสธร ได้การเตรียมความพร้อมและการให้ความช่วยเหลือ โดยเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำที่ท่วมขังบริเวณดังกล่าวอย่างใกล้ชิด ในส่วนของฝายต่าง ๆ ได้ประสานงานกับโครงการชลประทานที่เกี่ยวข้องเพื่อบริหารจัดการแก้ไขปัญหาร่วมกัน พร้อมประสานความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นๆเพื่อบูรณาการการทำงานร่วมกันด้วย

จังหวัดนครพนม หลังเกิดฝนตกหนักในพื้นที่อ.เมือง ส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่รวม 2 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง และอ.โพนสวรรค์ ปัจจุบันบริเวณอ.เมือง มีระดับน้ำท่วมขังสูงประมาณ 60 ซม. เนื่องจากได้รับน้ำจากห้วยบังกอที่ไหลบ่ามาสมทบ จึงส่งผลให้ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ส่วนที่อ.โพนสวรรค์ บริเวณถนนเส้นบ้านห้วยพระ ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน และบ้านดอนสวรรค์ ต.นาขมิ้น อ.โพนสวรรค์ มีระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 1.20 เมตร เป็นระยะทางประมาณ 600 เมตร ปัจจุบัน(20 ก.ค. 61)ระดับน้ำเริ่มลดลงจากเมื่อวานประมาณ 10 ซม.

โครงการชลประทานนครพนม ได้ให้การช่วยเหลือโดยนำเครื่องสูบน้ำขนาด 8 นิ้ว จำนวน 3 เครื่อง ติดตั้งในเขตเทศบาลเมืองนครพนม บริเวณ บ้านท่าควาย ต.อาจสามารถ อ.เมือง จ.นครพนม เร่งระบายน้ำที่ท่วมขัง เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่

Advertisement

จังหวัดบึงกาฬ เนื่องจากฝนตกเพิ่มมากขึ้นและตกอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังบริเวณพื้นที่การเกษตร พื้นที่ชุมชน และพื้นผิวถนน ใน 2 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง และ อ.เซกา มีระดับน้ำสูงประมาณ 0.50 – 1.00 เมตร ซึ่งกรมชลประทานกำลังดำเนินงานติดตามประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือต่อไป

จังหวัดเลย เกิดฝนตกเพิ่มขึ้นมากตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม ส่งผลให้ปริมาณน้ำจากลำห้วยน้ำหมันเพิ่มสูงขึ้นจนไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร พื้นที่ชุมชน และพื้นผิวถนน บริเวณอ.ด่านซ้าย ทำให้มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบบริเวณ ต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย ระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 0.50 เมตร หากไม่มีฝนตกลงมาในพื้นที่เพิ่มเติม คาดว่าสถานการณ์น้ำจะเข้าสู่สภาวะปกติภายใน 1 – 2 วันนี้

จังหวัดพิษณุโลก เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณต.น้ำกุ่ม อ.นครไทย ทำให้ได้รับผลกระทบน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นผิวถนนสายบ้านป่าคาย – ห้วยเฮี้ย ต.บ้านแยง อ.นครไทย ช่วงบริเวณสะพานห้วยชำรู้ ระดับน้ำสูงประมาณ 1 เมตร เป็นระยะทางกว่า 800 เมตร วันเดียวกันนี้มีฝนตกในพื้นที่เล็กน้อย ทำให้ระดับน้ำมีแนวโน้มเริ่มลดลง คาดว่าหากฝนหยุดตก จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติภายในวันนี้ ซึ่งปริมาณน้ำดังกล่าวจะไหลลงยังแม่น้ำแควน้อยบริเวณ ต.หนองกะท้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ตามลำดับ

ส่วนการให้ความช่วยเหลือ โดยโครงการชลประทานพิษณุโลก ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร เครื่องจักร เครื่องมือ เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ได้อย่างทันท่วงที

จังหวัดน่าน เกิดฝนตกหนักกระจายในเขตจังหวัดน่าน 2 อำเภอ ได้แก่ อ.เชียงกลาง และ อ.ปัว ส่งผลให้เกิดอุทกภัยน้ำป่าไหลหลากจนล้นตลิ่ง เข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่ทางการเกษตรบริเวณ ต.เชียงกลาง ต.พญาแก้ว อ.เชียงกลาง และ ต.สถาน อ.ปัว ในเบื้องต้นกรมชลประทาน สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ปกครอง หน่วยงานทหาร และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ เข้าไปดำเนินการให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว ปัจจุบันสถานการณ์น้ำเริ่มเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว นอกจากนี้ ยังได้เตรียมความพร้อมเครื่องสูบน้ำ ขนาด 8 นิ้ว จำนวน 11 เครื่อง รถตักหน้าขุดหลัง จำนวน 1 คัน รถบรรทุกน้ำ จำนวน 1 คัน และรถบรรทุกติดเครนขนาด 6 ตัน จำนวน 1 คัน ให้สามารถช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที หากเกิดอุทกภัยในพื้นที่

ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้บริหารจัดการจราจรน้ำในลุ่มน้ำต่างๆ เพื่อลดผลกระทบต่อพื้นที่ที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม พร้อมจัดเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ และกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เพื่อให้เกิดความเดือดร้อนกับประชาชนให้น้อยที่สุด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image