เมื่อวันที่ 24 กรกฏาคม ที่ห้องแถลงข่าวสื่อมวลชนประจำสัปดาห์ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายเมธี มหายศนันท์ ผู้อำนวยการศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 23-25 กรกฏาคม 2561 พายุดีเปรสชั่น บริเวณอ่าวตังเกี๋ย จะเคลื่อนตัวขึ้นสู่ประเทศจีนตอนใต้ และจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ เข้าปกคลุมประเทศเวียดนามและลาวตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนมากกว่าบริเวณอื่นๆ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยในช่วงวันที่ 26-29 กรกฏาคม มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา ลาว และเวียดนามตอนบน ลักษณะเช่นนี้ ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกบางแห่ง
นายเมธีกล่าวว่า สภาพอากาศที่เชียงใหม่ วันพรุ่งนี้ถึงมะรืน (24 -25 กรกฏาคม) ฝนจะเพิ่มขึ้นอีกช่วงเย็น และจะตกมากพอสมควร ต่อเนื่องไปยังวันที่ 26-27 กรกฎาคม จะมีฝนตกชุกเกือบทั้งวัน สำหรับการคาดหมายวันนี้ (24 กรกฎาคม) เชียงใหม่ยังจะมีฝน โดยตกมากขึ้นในช่วง 19.00 น. และช่วง 01.00 น. และรุ่งเช้า (วันที่ 25 กรกฎาคม) จะค่อยๆ ลดน้อยลงไป และเพิ่มขึ้นในช่วงบ่ายของวันที่ 26 กรกฎาคม 19.00 น. และ 01.00 น. ส่วนวันอาสาฬหบูชา (27 กรกฎาคม) ปริมาณฝนค่อนข้างมากไปจนถึงวันที่ 28 กรกฏาคม เริ่มตั้งแต่ 07.00 น.ต่อเนื่องถึงกลางคืน
โดยสรุปคือ เชียงใหม่ยังจะมีฝนตกต่อเนื่อง 7-8 วัน เริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้บ่าย (25 กรกฎาคม) เป็นต้นไป เน้นตกในช่วงบ่าย เย็น และค่ำ โดยเฉพาะในวันที่ 26-28 กรกฏาคมจะมีปริมาณมาก ถือเป็นอีกช่วงที่อันตราย เพราะปริมาณค่อนข้างมากและตกยาว โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอแม่อาย อำเภอท่าตอน อำเภอเชียงดาว และอำเภอเวียแหง เป็นพื้นที่ตกหนักมากกว่าในตัวเมือง เนื่องจากอยู่ในแนวของร่องมรสุม ส่วนจังหวัดอื่นในพื้นที่ภาคเหนือ ปริมาณฝนจะเพิ่มขึ้นชัดเจน ทั้งนี้ รวมถึงดอยนางนอน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ก็เป็นพื้นที่ฝนตกหนักมากเช่นกัน
“ในภาพรวม 3 เดือนหลังจากนี้ สิงหาคม-กันยายนฝนจะเริ่มลดน้อยลงต่ำกว่าค่าปกติของทุกปี เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากปรากฏการณ์เอลนิโญ เมื่อเข้าสู่เดือนตุลาคมฝนก็จะหมดลง และเข้าสู่สภาวะแล้ง ขอให้เตรียมรับมือกับภาวะหมอกควันต่อไป ซึ่งปีหน้าอาจมาเร็วขึ้น” ผอ.ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือกล่าว
นายไพรินทร์ ลิ่มเจริญ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่ได้เตรียมพร้อมแผนรับมือกับอุทกภัยดินโคลนถล่มอย่างเต็มที่ในทุกด้าน นับตั้งแต่เข้าสู่ฤดูฝนในวันที่ 6 พฤษภาคม 2561 เป็นต้นมา ปีนี้เชียงใหม่มีการประกาศพื้นที่ประสบอุทกภัยเพียง 4 อำเภอ จากปีที่ผ่านๆ มาที่ประกาศไปประมาณ 16 อำเภอ ถือว่าแผนและระบบรับมือเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ด้าน นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ให้ความเป็นห่วงเรื่องดินสไลด์หลังดินอุ้มน้ำสะสม จากฝนที่ตกพรำลงมาต่อเนื่อง อาจสร้างความเสียหายหากเกิดเหตุการณ์ในพื้นที่ใด ทุกหน่วยงานได้มีการประสานข้อมูลและทำการแจ้งเตือนเฝ้าระวังและเข้าเผชิญเหตุให้ทันท่วงที ตอนนี้มีพื้นที่น่าจับตาอยู่ 4 อำเภอ คือ จอมทอง อมก๋อย ฝาง และสะเมิง ซึ่งมีฝนตกวันละ 20 มิลลิเมตร ได้ประสานกรมทรัพยากรธรณี เพื่อทำการเฝ้าระวังแล้ว แต่ประเมินแล้วยังไม่อันตราย
