น้ำโขงเชียงรายเพิ่มปริมาณขึ้นสูงแตะ 7 เมตร อำเภอสั่งเฝ้าระวัง

เมื่อเวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีฝนที่ตกลงมาอย่างหนักติดต่อกันนานกว่า 1 สัปดาห์ ส่งผลทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงด้าน จ.เชียงราย มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาเชียราย ได้ตรวจวัดระดับน้ำตรงบริเวณหน้าที่ว่าการ อ.เชียงแสน ชายแดนไทย-สปป.ลาว พบว่ามีความลึกประมาณ 6.98 เมตร ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นกว่าเมื่อวานนี้ที่ลึกประมาณ 6.30 เมตร ขณะที่สถานการณ์ริมฝั่งพบว่าน้ำได้เข้าท่วมบริเวณจุดผ่อนปรนแจมป๋อง บ้านแจม หมู่ 5 ต.หล่ายงาว อ.เวียงแก่น จนเอ่อล้นเข้าท่วมอาคารที่ทำการของเจ้าหน้าที่ที่ตั้งอยู่ทางเข้าออกท่าเรือและทำให้ต้องย้ายขึ้นมาทำงานกันด้านบน

ส่วนที่จุดผ่อนปรนบ้านหาดบ้าย หมู่ 1 ต.ริมโขง อ.เชียงของ ก็ถูกน้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่ริมฝั่งที่เป็นท่าเรือทำให้ผู้สัญจรไปมาและเคยมีการสร้างอาคารชั่วคราวไว้ใกล้ท่าเรือต้องขนย้ายข้าวของขึ้นมาให้ห่างจากฝั่ง ขณะที่บริเวณผาถ่านซึ่งมีโขดหินสีดำปรากฎให้เห็นและเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าพ่อผาถ่านพบว่าน้ำได้ท่วมจนเห็นแต่ศาลเหนือโขดหินที่อยู่เหนือน้ำเท่านั้น นอกจากนี้พบว่าพื้นที่ทางการเกษตรริมฝั่งซึ่งมักปลูกข้าวโพดและข้าวไร่ ตั้งแต่ อ.เชียงแสน อ.เชียงของ และ อ.เวียงแก่น ตลอดแนวถูกน้ำท่วมขังเป็นบริเวณกว้าง บ้านเรือนที่อยู่ในที่ลุ่มต้องขนย้ายข้าวของหนีน้ำขณะที่สภาพอากาศยังคงมีฝนโปรยลงมาเกือบตลอดทั้งวันและท้องฟ้ายังคงมืดครึ้ม

นายสุรนาท ศิริโชติ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาเชียงราย กล่าวว่าระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วอันเป็นผลมาจากฝนที่ตกลงมาเหนือน้ำ อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบข้อมูลจากคณะกรรมการแม่น้ำโขงหรือเอ็มอาร์ซีทราบว่าปริมาณน้ำฝนทางตอนเหนือของแม่น้ำโขงได้ลดลงแล้ว โดยวานนี้มีฝนตกในระดับประมาณ 40 มิลลิเมตร ก็ได้ลดลงเหลือเพียงแค่ 5 มิลลิเมตรเท่านั้นทำให้หาดว่ามวลน้ำนี้หมดไปและเมื่อไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติมระดับน้ำก็คงจะลดลงสู่ภาวะปกติ กระนั้นก็ได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งทางอำเภอ หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย ฯลฯ ให้เฝ้าระวังร่วมกันแล้ว

Advertisement

ด้านนายทัศนัย สุธาพจน์ นายอำเภอเชียงของ ได้เรียกประชุมผู้นำชุมชน ผู้ใหญ่บ้านกำนันและฝ่ายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เพื่อเตรียมความพร้อมรับอุทกภัยริมฝั่งดังกล่าวแล้วหลังน้ำโขงในพื้นที่มีระดับน้ำสูงถึง 7 เมตร จากเดิมที่มีระดับเพียง 3-4 เมตร ขณะที่จุดวิกฤตอยู่ที่ประมาณ 10-11 เมตร โดยได้กำหนดแผนเฝ้าระวังเป็น 3 พื้นที่คือ พื้นที่หมู่บ้านริมฝั่งที่อาจประสบกับน้ำที่ขึ้นสูงแบบฉับพลันจึงให้พร้อมเคลื่อนย้ายออกจากบ้านเรือนได้อย่างรวดเร็ว พืนที่ติดภูเขาให้ระมัดเรื่องดินไถลหรือสไลด์ทับ และพื้นที่ติดลำห้วยหรือแหล่งน้ำภายในให้เฝ้าระวังเรื่องน้ำไหลหลาก โดยปัจจัยที่ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำโขงมีมากคือฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องและการปล่อยเขื่อนจิ่งหงที่ประเทศจีน ซึ่งทางอำเภอก็ได้ประสานงานกับทางกรมเจ้าท่าอย่างต่อเนื่องเพื่อเฝ้าดูปริมาณน้ำแล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image