จากกรณี สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี มีปริมาณน้ำในเขื่อน 7,242 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 82% ยังสามารถรับน้ำได้อีก 1,618 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่เนื่องจากเวลานี้มีปริมาณน้ำที่ไหลเข้าอ่างมากกว่าวันละ 100 ล้าน ลบ.ม. อย่างต่อเนื่อง จึงต้องมีการบริหารจัดการน้ำในอ่างให้อยู่ในเกณฑ์ที่สามารถควบคุมได้ ดังนั้นจึงได้ทำการปรับเพิ่มการระบายน้ำ โดยในวันที่ 1 สิงหาคม 2561 ระบายน้ำเฉลี่ย 31 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน วันที่ 2 สิงหาคม 2561 ระบายน้ำเฉลี่ย 34 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน วันที่ 3-5 สิงหาคม 2561 ระบายน้ำเฉลี่ย 36 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนและผู้ประกอบการทางด้านท้ายน้ำนั้น
ล่าสุดวันที่ 1 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้ประกอบการ รีสอร์ท ชาวเรือ-ชาวแพ ที่ประกอบการให้บริการแก่นักท่องเที่ยวตลอดสองฟากฝั่งริมแม่น้ำแควน้อย โดยเฉพาะในเขตพื้นที่อำเภอไทรโยค ได้ตั้งไลน์กลุ่มขึ้นมา เพื่อรายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่ของตนเองพร้อมส่งภาพเข้ามาในไลน์กลุ่ม โดยในไลน์กลุ่มดังกล่าวจะมีเจ้าหน้าที่เขื่อนวชิราลงกรณ คอยคำให้แนะนำ และแจ้งข้อมูลของมวลน้ำให้ผู้ประกอบการทราบตลอดเวลา ซึ่งพบว่าบางพื้นที่มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น บางพื้นที่น้ำลดลง เนื่องจากในแต่ละพื้นที่มีระดับความสูง-ต่ำของตลิ่งไม่เท่ากัน แต่สภาพน้ำส่วนใหญ่จะใส สีไม่ขุ่นเหมือนหลายวันที่ผ่านมา
โดยแสดงให้เห็นว่า ฝนที่ตกกลางผืนป่าใหญ่ทั้งในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม รวมทั้งเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก รวมทั้งลำน้ำสาขาต่างๆ เริ่มมีปริมาณลดลงแล้ว ซึ่งผู้ประกอบการไม่ได้รู้สึกตื่นตระหนก แต่มีความตื่นตัวโดยช่วยกันเฝ้าระวัง พร้อมกับแจ้งให้สมาชิกทราบความเคลื่อนไหวของมวลน้ำและสีของน้ำอยู่ตลอดเวลา
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในส่วนของเขื่อนแม่กลอง ต.ม่วงชุม อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ขณะนี้ได้ทำการระบายน้ำในปริมาณ 523 ลบ.ม./วินาที
