เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ลงพื้นที่รับฟังข้อมูลจากผู้เกี่ยวข้อง สำรวจสถานการณ์อ่างเก็บน้ำเลย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ บ้านสวนปอ ต.แก่งศรีภูมิ อ.ภูหลวง จ.เลย หลังมีข่าวสร้างความตระหนกให้กับประชาชนใน จ.เลย ว่า อ่างน้ำเลยกำลังจะแตก มีน้ำล้นจากสปิลเวย์ออกมาเป็นปริมาณมาก แม้ฝนไม่ตกก็ยังคงมีมวลน้ำไหลลงอ่างปริมาณน้ำค่อนข้างสูง
จากการตรวจสอบพบว่า ชลประทานเลยกำลังเร่งรัดสร้างกาลักน้ำเพื่อเพิ่มการระบายน้ำออกโดยวางท่อขนาด 13 นิ้ว จำนวน 1 แถว ขนาด 8 นิ้ว อีกจำนวน 10 แถว และจะเร่งทำให้ครบ 19 แถว ส่วนประตูระบายน้ำอีก 1 ช่อง บริเวณสันเขื่อน อยู่ระหว่างปรับปรุงซ่อมแซมวาล์ว หากแล้วเสร็จสามารถพร่องน้ำได้เพิ่มอีกวันละ 1.5 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วัน อนึ่งระดับน้ำในแม่น้ำเลยอยู่ในระดับต่ำทั้ง 3 จุดคือ จุด อ.ภูหลวง จุด อ.วังสะพุง และ อ.เมืองเลย
นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กล่าวว่า การทำกาลักน้ำในอ่างน้ำเลยเป็นการระบายลงสู่แม่น้ำเลย ซึ่งจากเดิมที่มี 5 ท่อ บวกกับประตูระบายน้ำ 700,000 ลบ.ม. ก็สามารถระบายน้ำได้วันละ 1 ล้านกว่า ลบ.ม. เป้าหมายสูงสุดจะต้องมีการระบายน้ำ 3 ล้าน ลบ.ม./วัน ซึ่งระดับที่ระบายนี้จะไม่ล้นตลิ่งของแม่น้ำเลย และจะระบายลงน้ำโขงได้อย่างดี เนื่องจากว่า แม่น้ำโขงที่เชียงคานเริ่มลดระดับลง ความมั่นคงของอ่างน้ำเลยอยู่ในสถานการณ์ที่มั่นใจมาก การระบายน้ำทำได้ดี มั่นใจว่าน้ำที่ระบายลงไปก็จะไม่ท่วมตัวเมืองเลยและไม่ท่วม อ.วังสะพุง ตอนนี้ปริมาณน้ำจากลำน้ำสาขาที่ไหลลงน้ำเลยนั้นไม่มีแล้ว จึงเป็นโอกาสที่ดีที่จะระบายน้ำในช่วงนี้เพื่อพร่องน้ำเอาไว้ เผื่อมีพายุฝนลูกใหม่เข้ามา ซึ่งมีการตั้งเป้าไว้จะเก็บน้ำในอ่าง เอาไว้อย่างน้อยร้อยละ 70-80
“ประชาชนใน จ.เลย อย่าได้กังวล การระบายน้ำออกจากอ่างน้ำเลย เราตั้งใจจะระบายน้ำให้ได้ 3 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน หากอ่างนั้นมีน้ำเข้าสูงสุด แต่มั่นใจว่าจะไม่ล้นตลิ่งแน่นอน สถิติปริมาณน้ำฝนที่ไหลเข้าอ่างสูงสุดคือ 3 ล้าน ลบ.ม. เมื่อเข้ามา 3 ล้าน ลบ.ม.ก็ต้องระบายออกไป 3 ล้าน ลบ.ม.ระดับจะมั่นคง ประกอบกับน้ำโขงที่เชียงคานก็ลดระดับลงเรื่อยๆฉะนั้นน้ำเลยก็จะไม่ล้นตลิ่ง ที่โชคดีอีกอย่างคือลำน้ำสาขาต่างๆ ที่ไหลลงแม่น้ำเลยแทบไม่มีเลย” นายชัยวัฒน์กล่าว
