แม่น้ำโก-ลกแห้งขอด จนเดินข้ามไปมาเลย์ได้

วันที่ 16 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความแห้งแล้งในปีนี้ได้ส่งผลกระทบต่อประชาชน โดยเฉพาะพื้นที่เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส จากผลพวงของแม่น้ำสุไหงโก-ลก โดยเฉพาะช่วงที่ไหลผ่าน อ.แว้ง สุไหงโก-ลก และตากใบ ซึ่งมีความยาว 65 กม. มีปริมาณระดับน้ำในแม่น้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยอยู่ในระดับ 3.93 เมตร ซึ่งจากเดิมสูง 8.25 เมตร ที่ถือว่าเข้าสู่สภาวะวิกฤตแล้ว จากการใช้พารามอเตอร์บินสำรวจ พบว่าโดยเฉพาะในพื้นที่ อ.แว้ง, สุไหงโก-ลก และตากใบ บางส่วนมีระดับน้ำแห้งขอดจนหาดทรายโผล่ในบางจุด สามารถที่เดินข้ามผ่านไปมาระหว่างรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย กับฝั่งประเทศไทยด้าน 3 อำเภอได้แล้ว แถมมีซากท่อนไม้และกิ่งไม้ใหญ่โผล่กองระเกะระกะเป็นช่วงๆ กลางแม่น้ำ

แม่น้ำโก-ลกแห้ง

นอกจากนี้ ผลพวงของระดับน้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลกได้แห้งขอดลงในครั้งนี้ จากการประเมินในช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคมที่จะถึงนี้ ชาวอำเภอสุไหงโก-ลก โดยเฉพาะที่อาศัยอยู่ในเขตเทศบาลอาจจะต้องประสบกับสภาวะน้ำประปาที่อาจจะมีใช้ในการอุปโภคและบริโภคไม่เพียงพอ จนการประปาส่วนภูมิภาค อ.สุไหงโก-ลกต้องใช้กระสอบปุ๋ยบรรจุทรายทำเป็นคันกันน้ำ เพื่อกักปริมาณน้ำไว้เพื่อสูบน้ำเข้ากระบวนการกลั่นกรองให้สะอาด ก่อนที่จะแจกจ่ายไปยังบ้านเรือนของประชาชน

และประการสำคัญอีกอย่างหนึ่งจากการใช้พารามอเตอร์บินสำรวจที่บริเวณประตูระบายน้ำ บ้านลูโบ๊ะซามา หมู่ 8 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการส่งน้ำเข้าหล่อเลี้ยงพื้นที่ป่าพรุโต๊ะแดงให้มีความชุ่มชื้น เพื่อป้องกันไฟไหม้ป่านั้น พบว่าปริมาณน้ำในคูส่งน้ำได้แห้งขอดจนน้ำไม่สามารถไหลเข้าไปหล่อเลี้ยงพื้นที่ป่าพรุโต๊ะแดงแล้ว และมีความเสี่ยงหากเกิดเหตุไฟไหม้ป่าพรุขึ้นก็ยากที่จะควบคุมต้นเพลิงเอาไว้ได้

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image