ความคืบหน้ากรณีพบโรคพิษสุนัขบ้าระบาดในกระบือ (ควาย) ในพื้นที่หมู่ 3 และหมู่ 18 ต.กาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ซึ่งมีกระบือล้มไปแล้ว 4 ตัว ในเวลาไล่เลี่ยกัน และในจำนวนนี้มีชาวบ้านได้ชำแหละเนื้อกระบือไปประกอบอาหารกินนั้น
เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในจำนวนกระบือ 2 ใน 4 ตัว เป็นกระบือของนายใจเพชร หาทรัพย์ อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ 18 ต.กาบเชิง หลังจากตัดหัวกระบือไปตรวจกับทางปศุสัตว์ อ.กาบเชิง ในวันเดียวกัน พบว่าหัวกระบือที่ชาวบ้านชำแหละไปกินมีเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าอยู่ เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม อ.กาบเชิง กับปศุสัตว์อำเภอ จึงร่วมกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล อ.กาบเชิง, เจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน (อสม.) และกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ต้องเร่งช่วยกันประชาสัมพันธ์ให้กับชาวบ้านที่กินและสัมผัสกับเนื้อกระบือให้เข้าไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าอย่างเร่งด่วน
ในเบื้องต้นพบว่าชาวบ้านทั้ง 2 หมู่บ้านที่กินเนื้อกระบือและสัมผัสกับเนื้อกระบือ ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงมีอยู่จำนวน 188 คน ขณะที่นายสุทธิโรจน์ เจริญธนะศักดิ์ นายอำเภอกาบเชิง ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งลงพื้นที่ตรวจสอบ เฝ้าระวังเพื่อป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่อย่างเข้มงวด ตามมาตรการควบคุมพื้นที่โรคระบาดของปศุสัตว์ โดยเฉพาะผู้ที่ชำแหละและกิน รวมไปถึงผู้ที่สัมผัสเนื้อ จะต้องติดตามตัวมาฉีดวัคซีนให้ครบทุกคน และเร่งประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านรับทราบ ห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์เลี้ยงออกนอกพื้นที่ และหากพบสัตว์เลี้ยงมีอาการผิดปกติและตายห้ามนำไปกินเด็ดขาด ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์เพื่อเข้าตรวจสอบโดยทันที ขณะเดียวกันก็มั่นใจในมาตรการที่ดำเนินการควบคุมจะไม่ให้เกิดการระบาดออกไปเป็นวงกว้าง
ล่าสุด สำหรับชาวบ้านกลุ่มเสี่ยง จำนวน 188 คน ในเบื้องต้นได้มีการเข้าไปฉีดวัคซีนป้องกันกับ รพ.กาบเชิงแล้ว แต่ยังฉีดไม่ครบทุกคน นอกจากนี้แล้วยังตรวจสอบพบอีกว่ายังมีกลุ่มเสี่ยงเพิ่มจำนวนมาอีกอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่าขณะนี้รวมยอดกลุ่มเสี่ยงทั้งหมดแล้วมากกว่า 200 ราย ซึ่งตัวเลขยังไม่นิ่งและยังไม่ชัดเจน ขณะที่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งประชาสัมพันธ์และตรวจสอบเพิ่มเติมเพื่อนำตัวกลุ่มเสี่ยงที่เหลือเข้ามาฉีดวัคซีนให้ครบทุกคนภายในวันนี้
ด้าน พญ.วรวรรณ กอปรกิจงาม รักษาการผู้อำนวยการ รพ.กาบเชิง เปิดเผยว่า ในส่วนของโรงพยาบาล ผู้ที่ไปสัมผัส หรือชำแหละจะต้องได้รับวัคซีนครบทุกคน ก็ได้มีการสืบว่ามีใครไปสัมผัสหรือกินบ้าง กลุ่มสัมผัสกลุ่มแรกคือใคร โดยเฉพาะกลุ่มที่ไปชำแหละซึ่งมีความเสี่ยงสูง
“จุดนี้ตรงได้รับเซรุ่มด้วย จากนั้นก็ตามว่าเนื้อที่แบ่งกันไปจุดไหนบาง โดยภาพรวมพบว่ามีผู้สัมผัสแล้ว 188 ราย ซึ่งทยอยฉีดวัคซีนไปแล้ว และจะฉีดเพิ่มเติมให้ครบภายในวันนี้ ส่วนที่เหลือก็จะให้ทยอยมาฉีดจนครบทุกคน วัคซีนมีเพียงพอ ซึ่งเบื้องต้นทราบว่ามีจำนวนมากกว่าที่สำรวจมา แต่ก็มีมาตรการที่สำรองไว้ หากไม่พอก็จะติดต่อขอจากโรงพยาบาลข้างเคียงไว้แล้ว โดยผู้ได้สัมผัสเบื้องต้นจะต้องเข้ามารับวัคซีนให้ครบทุกคน แล้วต้องสังเกตการณ์ต่อไปว่ากลุ่มนี่จะมีอาการข้างเคียงอย่างไร ส่วนผู้ที่มารับวัคซีนส่วนมากจะเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำ ที่น่าเป็นห่วงคือกลุ่มที่ชำแหละหรือกินดิบ ซึ่งก็พบว่าไม่มีผู้กินดิบ และพบว่ากลุ่มที่เสี่ยงเนื่องจากชำแหละจำนวน 3 ราย ขณะนี้ก็ได้เร่งติดตามให้ผู้สัมผัสที่เกี่ยวข้องเร่งมารับวัคซีนให้ครบทุกคนอย่างเร่งด่วนแล้ว” พญ.วรวรรณกล่าว
ด้านนายจุฬา นำเขต อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40 หมู่ 18 ต.กาบเชิง ซึ่งเป็น 1 ใน 5 คน ที่ร่วมชำแหละเนื้อกระบือ เปิดเผยว่า ได้นำกระบือของนายใจเพชรไปฝัง แต่เพื่อนบ้านตัดสินใจให้ช่วยกันชำแหละ และเป็นคนช่วยจับขากระบือระหว่างชำแหละ แต่ไม่ได้นำเนื้อไปกินแต่อย่างใด เพราะตนอยู่บ้านใกล้ๆ กัน เห็นอาการกระบือก่อนตายร้องโหยหวน จึงไม่กล้ากิน
นอกจากนี้ยังมีอีกรายที่ช่วยชำแหละ ซึ่งที่บริเวณมือมีแผล เสี่ยงต่อการติดเชื้อสูง ซึ่งได้ฉีดวัคซีนแล้ว โดยกลุ่มเสี่ยงที่ชำแหละกลุ่มแรกจะเป็นกลุ่มเสี่ยงมากที่สุด รองลงมาคือผู้บริโภคและสัมผัส ตามลำดับ
สำหรับกระบือทั้ง 4 ตัว ประกอบด้วย ตัวที่ 1 ล้มไม่ทราบสาเหตุ มีอาการเจ็บขาและเป็นตัวที่อายุมาก ล้มเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม เป็นของนายบัวเลิศ ชัยชะนี อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 213 หมู่ 3 ต.กาบเชิง ชาวบ้านชำแหละกิน แต่ไม่ทราบว่าเป็นโรคพิษสุนัขบ้าหรือไม่ ตัวที่ 2 เป็นของนายประสิทธิ์ สายรัด อยู่บ้านเลขที่ 116 หมู่ 18 ต.กาบเชิง ล้มเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม เวลา 16.00 น.อาการทุรนทุราย จึงนำไปฝัง แต่ไม่ได้ตรวจ ซึ่งคาดว่าอาจเป็นโรคพิษสุนัขบ้า ส่วนตัวที่ 3 และตัวที่ 4 เป็นของนายใจเพชร หาทรัพย์ โดยตัวที่ 3 มีการตัดหัวไปตรวจสอบเชื้อ พบติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า แต่ชาวบ้านได้นำตัวไปชำแหละระหว่างนำหัวไปตรวจหาเชื้อ ก่อนแบ่งกันไปกิน จากนั้นจึงทราบผลว่ากระบือติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า และอีกตัว หลังทราบว่าตัวที่ชาวบ้านชำแหละไปกินมีเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า ชาวบ้านจึงไม่กล้ากิน และได้นำไปฝัง โดยทั้ง 2 ตัวหลังเป็นกระบือแม่ลูกคอกเดียวกัน ล้มในวันเดียวกัน เวลา 07.00 น.และเวลา 18.00 น.วันที่ 10 สิงหาคม
