สืบเนื่องจากนายปัญญา ยิ่งดัง หรือเสี่ยอ้วน นักธุรกิจดังในจังหวัดภูเก็ต ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนสังหาร น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือสปาย อายุ 20 ปี และนายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือฟอส อายุ 20 ปี เสียชีวิตบริเวณลานจอดรถ ตรงข้ามพระพุทธรูปแกะสลัก หน้าผาเขาชีจรรย์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2561 ที่ผ่านมานั้น จากนั้นได้หนีไปกบดานอยู่ที่ประเทศกัมพูชา
ต่อมา เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 15 สิงหาคม มีข่าวว่า เจ้าหน้าที่กัมพูชาได้จับกุมตัวนายปัญญา ยิ่งดัง ที่บ้านไปรเวง ใกล้เขตแดน กัมพูชา-เวียตนาม ห่างจากกรุงปอยเปต อ.โอโจรว จ.บันเตียเมียนเจย ตรงข้ามกับจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เข้าไปประมาณ 580 กิโลเมตร จากการเปิดเผยของลูกน้องเสี่ยอ้วน ทั้งนี้ จากการคาดการณ์คาดว่าจะมีการส่งตัวเสี่ยอ้วนเข้ามาในราชอาณาจักรไทยผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองอรัญประเทศ จ.สระแก้ว ในเช้าวันที่ 16 สิงหาคมนี้
บรรยากาศบริเวณหน้าด่านตรวจคนเข้าเมืองอรัญประเทศ จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 16 สิงหาคม เจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองสระแก้วได้ทำการตรวจเข้มรถยนต์ที่วิ่งผ่านด่าน ทั้งของคนไทยและของชาวกัมพูชา ส่วนชาวกัมพูชาและนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าออกตามปกติ ขณะที่มีผู้สื่อข่าวหลายสำนักเตรียมเก็บภาพนายปัญญาอยู่ที่บริเวณกลางสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา ซึ่งคาดว่าเจ้าหน้าที่กัมพูชาจะนำตัวขึ้นรถยนต์วิ่งผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง และวิ่งเข้าสู่จังหวัดชลบุรีทันที โดยจะไม่มีการหยุดพักให้ลงจากรถ เนื่องจากการส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึกที่เคยมีมาก่อนจะไม่มีการนำผู้ต้องหาลงกลางทาง แต่จะมีรถของเจ้าหน้าที่กัมพูชาขับไปส่งถึงที่จุดหมายปลายทางทุกครั้ง
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยที่อยู่บริเวณหน้าด่านตรวจคนเข้าเมืองอรัญประเทศ ได้รับคำตอบว่า ไม่ทราบเรื่องการส่งตัวนายปัญญา ยิ่งดังว่าจะผ่านด่านที่จุดนี้ แต่ยังคงปฏิบัติหน้าดูแลคนเข้าเมืองตามปกติ ปัจจุบันยังไม่ได้รับการประสานจากฝ่ายกัมพูชาแต่อย่างใด
