เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 สิงหาคม พ.ต.อ.ดำรงศักดิ์ สว่างงาม รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า จากกรณีที่นายเดลต้า คำมุงคุณ อายุ 41 ปี ชาว อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ได้เข้าร้องเรียนกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านตรวจ สภ.หนองสูง จ.มุกดาหาร ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ร่วมกันปิดประตูป้อมตำรวจเพื่อกักตัวแล้วทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ โดยขอให้ดำเนินการทางวินัย และคดีอาญากับเจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มดังกล่าวนั้น
ทั้งนี้ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหารได้สั่งการให้ตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง พร้อมกับรับคำร้องทุกข์ดำเนินคดีอาญากับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องรวม 8 นาย โดยส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวน สภ.หนองสูง ดำเนินคดี และจะมีการเรียกนายเดลต้า ไปสอบปากคำเพิ่มเติม พร้อมกับรายงานเรื่องดังกล่าวให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 รับทราบว่าทางกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหารได้ดำเนินการอย่างไรไปบ้างแล้ว โดยขอให้ทางนายเดลต้า ไม่ต้องกังวลใจว่าทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหารจะปล่อยปละละเลย ไม่สนใจ หรือไม่ให้ความเป็นธรรมในเรื่องดังกล่าว เพราะตอนนี้ได้มีการรับคำร้องทุกข์ในคดีอาญา และทางวินัยไว้เรียบร้อย ทุกอย่างเข้าสู่กระบวนหมดแล้วโดยทางคดีอาญาพนักงานสอบสวนก็จะต้องดำเนินการไปตามพยานหลักฐานตามกฎหมาย ส่วนเรื่องวินัยก็ดำเนินการไปตามขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนในกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้
โดยในวันนี้กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหารจะออกคำสั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนทางวินัยเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านตรวจหนองสูง รวม 8 นาย เป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร 2 นาย และชั้นประทวน 6 นาย ส่วนผู้บังคับบัญชาในระดับสูงขึ้นไปของตำรวจทั้ง 8 นาย ใน สภ.หนองสูง จะมีความผิดทางวินัยที่ไม่ดูแล ปล่อยปละละเลยผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยหรือไม่นั้น ต้องรอผลสรุปการสืบสวนทางวินัยตำรวจทั้ง 8 นาย เสียก่อน ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 8 นาย มีบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ ปปส. ซึ่งจะทำให้มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการเกี่ยวกับคดียาเสพติด หรือไม่นั้น ได้สอบถามเบื้องต้นแล้วปรากฏว่าไม่มี
นายเดลต้ากล่าวว่า กรณีร้องเรียนและแจ้งความดำเนินคดีอาญากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองสูง ทั้ง 8 นาย นี้สืบเนื่องมาจาก ขณะที่ตนนั่งรถโดยสารจากกรุงเทพฯ กลับมา จ.มุกดาหาร เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. ของวันที่ 15 สิงหาคม รถได้วิ่งมาถึงด่านตรวจ สภ.หนองสูง และได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจประด่านตรวจได้ขึ้นมาบนรถพร้อมกับขอตรวจบัตรประชาชนของผู้โดยสารทุกคน เมื่อเดินตรวจมาถึง ผมก็ยื่นบัตรประชาชนให้ดู เจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อรับบัตรไปดูเสร็จแล้วก็ถามว่าทำงานที่ไหน ขณะนั้นผมกำลังง่วงนอนก็เลยบอกว่า ไม่ขอตอบได้ไหม ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวไม่พอใจและบอกว่างั้นเชิญลงตรวจปัสสาวะ ผมเลยหยิบโทรศัพท์มาถ่ายคลิป และเดินตามลงมาจากรถโดยสารเข้าไปที่ป้อมตำรวจซึ่งอยู่บริเวณใกล้กันกับที่รถโดยสารจอด
โดยภายในป้อมตำรวจมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ 5 นาย ติดยศร้อยตำรวจเอกนายหนึ่ง และได้ขอตรวจค้นตัว ค้นกระเป๋า และขอตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด ผมถามว่ามีบัตร ปปส.ไหมเพราะเป็นอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับคดียาเสพติด ก็ได้รับคำตอบว่า ไม่จำเป็นต้องมีตรวจได้ทุกคน ถ้าสงสัยว่าเสพยาเสพติด ผมเลยถามว่าทำไมไม่สงสัยและตรวจผู้โดยสารทุกคนที่อยู่บนรถ ตำรวจบอกว่าไม่จำเป็น แต่สงสัยน้องนี่แหละ จากนั้นมีตำรวจเดินไปล็อกประตูทางออกจากป้อมตำรวจ ผมเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยก็เลยลุกขึ้นจะวิ่งออกมาจากป้อมตำรวจ แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นประทวน 4 นาย เข้ามาล็อกตัวแล้วผลักให้ล้มลงกับพื้นซีเมนต์ แล้วรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บเป็นแผลที่บริเวณใบหน้า คิ้ว และลำคอ
ผมกลัวว่าจะถูกทำร้ายอีกจึงยอมปัสสาวะให้ตรวจ ผลปรากฏว่าไม่พบสารเสพติด และได้มีการขอให้ตรวจใหม่อีกครั้ง ซึ่งผมก็ทำตามผลปรากฏว่าครั้งที่สองก็ไม่พบสารเสพติดเช่นเดิม เมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มดังกล่าวเห็นว่าตรวจไม่พบสารเสพติด จึงไม่มีข้อกล่าวหาที่จะแจ้งดำเนินคดี ก็เลยขอให้ลบคลิป และจบเรื่องโดยไม่ติดใจที่จะดำเนินเรื่องใดๆ ต่อไป ผมกลัวว่าถ้าไม่ตกลงทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มดังกล่าวจะไม่ยอมปล่อยตัวออกมาจากป้อมตำรวจจึงยอมตกลง หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้พามาส่งที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดมุกดาหาร แล้วกลับไป จากนั้นผมจึงเดินทางไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลมุกดาหาร และมาแจ้งความดำเนินคดีอาญา และทางวินัยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มดังกล่าวที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหารดังกล่าว
