แฉอาคารพิพิธภัณฑ์เมืองประจวบฯข้างจวนผู้ว่าใช้งบ 40 ล้านหนุนท่องเที่ยวสร้างนาน 4 ปี เป็นอาคารร้าง ล่าสุดโดนแจ้งตรวจสอบเพิ่มไม่ขออนุญาตสร้างอาคาร
วันที่ 17 สิงหาคม นายพงษ์พันธ์ วิเชียรสมุทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า จากกรณีมีประชาชนร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอให้ตรวจสอบการก่อสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์เมืองประจวบฯ ที่มีการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์จากสโมสรข้าราชการใกล้จวนผู้ว่าราชการจังหวัดหลังเก่า ในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ ใช้งบประมาณก่อสร้าง 24 ล้านบาทจากงบพัฒนาจังหวัด ตั้งแต่ปี 2558 ตามโครงการปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัด แต่ปัจจุบันไม่สามารถเปิดให้บริการประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าชมได้ตามปกติ สำนักวัฒนธรรมจังหวัดชี้แจงว่าอาคารดังกล่าวบริษัทผู้รับจ้างก่อสร้างทำงานล่าช้าจากกำหนดเดิม 4 เดือน และขณะนี้หลังจากมีการใช้งบเพิ่มจัดนิทรรศการภายในแต่ยังไม่สามารถเปิดใช้งานได้
นายพงษ์พันธ์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาสำนักงานวัฒนธรรมได้รับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มอีก 16 ล้านบาท เพื่อว่าจ้างบริษัทเอกชนจัดนิทรรศการถาวรภายในอาคาร ต่อมามีการประมูลก่อสร้างราคา 13 ล้านบาท มีการลงนามในสัญญาจ้างตั้งแต่ วันที่ 29 มีนาคม 2559 กระทั่งสิ้นสุดสัญญา เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2560 แต่บริษัทยังดำเนินการไม่เสร็จและมีหนังสือยินยอมเพื่อจ่ายค่าปรับ ต่อมาเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2561 คณะกรรมการตรวจการจ้างมีมติยกเลิกสัญญาจ้าง เนื่องจากการทำงานล้าช้า ไม่เป็นไปตามเงื่อนไข สร้างความเสียหายกับทางราชการและส่งผลกระทบกับภาพลักษณ์ของจังหวัด เนื่องจากสถานที่ดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ใจกลางเมืองเป็นจุดที่ประชาชนให้ความสนใจ
นายเกริกชัย ชาติไทยไตรรงค์ หัวหน้าสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า คาดว่าจะเปิดพิพิธภัณฑ์ให้ประชาชนเข้าชมได้ในปี 2562 และขณะนี้หลังจากยกเลิกสัญญาจ้าง ได้แจ้งให้สำนักงานโยธาธิการจังหวัด ประเมินราคาค่าก่อสร้างรับเหมา ว่าจะใช้งบประมาณจำนวนเท่าใดเพื่อทำโครงการให้เสร็จสิ้น เนื่องจากบริษัทรับจ้างเดิมส่งงานนิทรรศการถาวรภายในแล้วกว่า 70 % แต่ไม่สามารถทำงานให้ครบตามสัญญาจ้าง เนื่องจากอ้างว่าขนาดสภาพคล่อง ทำให้บริษัทต้องจ่ายค่าปรับวันละ 13,000 บาท ต่อเนื่องเป็นระยะเวลากว่า 1 ปี จากนั้นเมื่อมียกเลิกสัญญาจังหวัดจะดำเนินการกฎหมายเพื่อเรียกร้องเงินประกันล่วงหน้ากว่า 4 ล้านบาท เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง ทั้งนี้ยอมรับว่าปัญหาดังกล่าวทำให้ประชาชนเสียโอกาสจากการใช้งบประมาณด้านการพัฒนาท่องเที่ยวของทางราชการ ล่าสุดได้รับแจ้งว่าอาคารดังกล่าวยังไม่ได้ขออนุญาตก่อสร้างจากเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งจะต้องตรวจสอบย้อนหลังทั้งหมด
