เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครราชสีมารายงานข่าวกรณีชาวบ้านในอำเภอเมืองยาง จังหวัดนครราชสีมา พบหินประหลาดคล้ายฟันหรือกรามของสัตว์ใหญ่ โดยคาดว่าน่าจะเป็นฟันกรามของช้างป่าในยุคพันปี พบทั้งหมด 3 ชิ้น มีความยาว 20 เซนติเมตร กว้าง 16 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณครึ่งกิโลกรัม ในลำห้วย ติดกับลำน้ำลำสะแทด ตำบลกระเบื้องนอก อำเภอเมืองยาง หลังจากไปทอดแหจับปลาในลำห้วย ปรากฏว่าได้พบกับชิ้นส่วนฟันของช้างซึ่งเกือบจะกลายเป็นหินจำนวน 3 ชิ้น เนื่องจากในจุดที่พบเคยมีชาวบ้าน ในสมัยก่อนได้เล่าต่อๆ กันว่าบริเวณลำห้วยที่พบชิ้นส่วนฟันของช้างป่า น่าจะเป็นลำธารที่ช้างป่าลงมาเล่นน้ำ และล้มตายในอดีต
ว่าที่ร้อยตรี ธีรพล โชคนำชัย นายอำเภอเมืองยาง นายศิวะเสก สินโทรัมย์ ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองยาง นำนักดำน้ำของหน่วยกู้ภัยสว่างเมตตาอำเภอชุมพวง ได้ลงดำน้ำเพื่อค้นหาชิ้นส่วนเพิ่มในจุดที่ชาวบ้านทอดแหจับปลาพบ กระดูกฟันช้างป่าจำนวน 3 ชิ้น โดยทางเจ้าหน้าที่นักดำน้ำจำนวน 5 คน ได้ลงดำน้ำลึกประมาณ 3 เมตร โดยใช้เวลาดำนาค้นหานานกว่า 1 ชั่วโมง ก็ไม่พบชิ้นส่วนของช้างป่าเพิ่มแต่อย่างใด จนกระทั่งทางชาวบ้านได้นำขันห้า ดอกไม้ ธูปเทียน เหล้าขาว มาประกอบพิธีขอขมาเจ้าป่า ปรากฏว่าหลังจากชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ได้ประกอบพิธีขอขมาเจ้าป่าแล้ว นักดำน้ำของทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างเมตตาชุมพวง ดำลงไปลึกกว่า 3 เมตร ได้พบกับชิ้นส่วนที่เชื่อว่าน่าจะเป็นกระดูกฟันกรามของช้างป่าเพิ่มอีกจำนวน 4 ชิ้น โดยทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างค้นหาเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ทางอำเภอเมืองยาง จะได้ประสานไปยังผู้เชี่ยวชาญให้ลงพื้นที่ มาตรวจสอบในจุดที่ค้นพบกระดูกฟันช้างป่าพันปีเพื่อเตรียมจะยกระดับให้เป็นแหล่งศึกษาทางธรณีวิทยาแห่งใหม่ของอำเภอเมืองยางต่อไป
