เมื่อวันที่ 18 เมษายน พระใบฎีกาเอกลักษณ์ อาภสฺสโร เจ้าอาวาสวัดกลางคลองวัฒนาราม ม.1 ต.เจ้าเสด็จ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ตรวจสอบแนวเขื่อนที่บริเวณหน้าวัดติดกับคลองเจ้าเจ็ด-บางยี่หน เกิดการทรุดตัวเป็นแนวยาว กว่า 100 เมตร จนแยกจากกัน ตัวเขื่อนเริ่มเอนจะพังลงไปใน พื้นดินบริเวณหน้าวัดทรุดตัวยาวกว่า 100 เมตร ลึกประมาณ 1 เมตร ดินที่สไลด์ตัวรอดแนวเขื่อนไหลลงไปในคลอง ระดับน้ำในคลองมีปริมาณน้ำน้อยจวนจะแห้งขอดคลอง
พระใบฎีกาเอกลักษณ์เจ้าอาวาสเปิดเผยว่า เขื่อนได้สร้างเสร็จได้ประมาณ 1 เดือน มีความยาวประมาณ 150 เมตร สร้างโดยกรมโยธาธิการและผังเมือง งบประมาณ 15 ล้านบาท เพื่อป้องกันการทรุดตัวของตลิ่งที่เกิดการทรุดตัวเมื่อเดือนเมษายน ปี พ.ศ.2556
“แนวเขื่อนเริ่มมีความผิดปกติก่อนหน้านี้ประมาณ 2-3 วัน ดินเริ่มทรุดตัว จากนั้นทรุดตัวอย่างต่อเนื่องจนแนวเขื่อนพัง ได้แจ้งเจ้าหน้าที่กรมโยธาธิการและผังเมืองได้ทราบแล้ว ส่วนสาเหตุน่าจะเกิดระดับน้ำในคลองลดลงต่อเนื่องติดต่อกัน น้ำไม่มีช่วยพยุงดินชั้นล่างเป็นดินเหลวจนเกิดการทรุดตัว โดยที่ผ่านมา ทางวัดก็ดีใจที่ได้ประโยชน์จากเขื่อนเมื่อสร้างเสร็จ จะได้พัฒนาวัดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ฟื้นฟูจัดกิจกรรมประเพณีทางน้ำ การแข่งเรือพาย ลอยกระทง แต่มาพังลงหลังสร้างเสร็จเพียง 1 เดือน และดินยังทรุดตัวอย่างต่อเนื่องเกรงว่าศาลาและศาสนสถานของวัดจะพังลงไปด้วย” พระใบฎีกาเอกลักษณ์กล่าว
