กรณีที่นายปัญญา ยิ่งดัง หรือเสียอ้วน นักธุรกิจดังในจังหวัดภูเก็ต ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนสังหาร น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือสปาย อายุ 20 ปี และนายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือฟอส อายุ 20 ปี เสียชีวิตบริเวณลานจอดรถตรงข้ามพระพุทธรูปแกะสลัก หน้าผาเขาชีจรรย์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมานั้น จากนั้นได้หนีไปกบดานอยู่ที่ประเทศกัมพูชา
ต่อมาเมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 15 สิงหาคม มีข่าวว่านายปัญญา ยิ่งดัง หรือเสี่ยอ้วน ถูกเจ้าหน้าที่กัมพูชาจับตัวได้ ที่ประเทศกัมพูชา หลังเตรียมจะหนีออกไปประเทศเวียดนาม และได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย เพื่อนำตัวส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายในประเทศไทยต่อไป และคาดว่าจะส่งตัวเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองอรัญประเทศ จ.สระแก้ว คาดว่าจะถึงด่านตรวจคนเข้าเมืองอรัญประเทศในช่วงบ่าย วันที่ 17 สิงหาคม
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 17 สิงหาคม ที่ สภ.คลองลึก อ.อรัญประเทศ ได้มีเจ้าหน้าที่จากสืบภาค 9 นำผู้ต้องหาชาวกัมพูชาจำนวน 2 คน มาส่งที่ สภ.คลองลึก จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจังหวัดสระแก้วได้ทำการสอบสวนที่ห้องงานสืบสวน ศปก.สื่อออนไลน์ สภ.คลองลึก อ.อรัญประเทศ
จากการสอบถามชุดสืบภาค 9 ทราบว่า ชาวกัมพูชาทั้ง 2 คน เป็นผู้ต้องหาอุกฉกรรจ์ ที่เจ้าหน้าที่กัมพูชาต้องการตัว โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้หลบหนีคดีในประเทศกัมพูชาเขามากบดานอยู่ในประเทศไทย และเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถจับกุมได้ โดยฝ่ายกัมพูชา มีข้อต่อรองขอแลกผู้ต้องหาชาวกัมพูชากับผู้ต้องหาชาวไทย คือนายปัญญา ยิ่งดัง หรือเสี่ยอ้วน เป็นการแลกเปลี่ยนกัน โดยกำหนดจุดแลกเปลี่ยนผู้ต้องหา คาดว่าจะแลกเปลี่ยนที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึกหรือที่บริเวณด่านตรวจคนเข้าเมืองอรัญประเทศ หรือที่บริเวณจุดกึ่งกลาง สะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา จุดใดจุดหนึ่งก็ได้ และจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ชุดสืบเฉพาะกิจ ภาค 2 ทราบว่า นายปัญญา ยิ่งดัง หรือเสี่ยอ้วน ถูกควบคุมตัวกลับโดยทางรถยนต์มาที่ ด่านตรวจคนเข้าเมืองอรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว คาดว่าจะเดินทางมาถึงเวลาประมาณ 22.00 น.
