เมื่อวันที่ 18 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านกว่า 250 คนต่างพากันมามุงดูซากเรือโบราณขนาดใหญ่ ซึ่งถูกชาวบ้านที่มาหาปลาค้นพบ บริเวณใต้สะพานข้ามลำน้ำมูล บ้านมะดันรัฐ หมู่ 10 ต.ท่าช้าง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา ภายหลังจากที่ได้ช่วยกันลากซากเรือขึ้นมาไว้ชายฝั่งริมลำน้ำมูล โดยเรือโบราณดังกล่าวเป็นเรือไม้ มีความยาวประมาณ 20 เมตร กว้างประมาณ 3 เมตร อยู่ในสภาพเหลือแต่โครงท้องเรือ บริเวณด้านหน้าเรือยังพบรูปหล่อแม่ย่านาง ขนาดความสูงประมาณ 1 คืบ ทำจากเซรามิก ซึ่งชาวบ้านได้นำมาตั้งไว้บนโต๊ะใต้สะพาน และทำการกราบไหว้กันอย่างคึกคัก โดยชาวบ้านส่วนใหญ่ที่มากราบไหว้ต่างก็ขอพรให้แม่ย่านางช่วยดลบันดาลให้ลำน้ำมูลมีน้ำที่อุดมสมบูรณ์ตลอดทั้งปี
จากการสอบถามนางจุไรรัตน์ ลาภเจริญ อายุ 40 ปี ผู้พบเรือโบราณคนแรก บอกว่า ก่อนหน้านี้เคยมีคนเฒ่าคนแก่ลือกันว่าที่บริเวณใต้สะพานข้ามลำน้ำมูลแห่งนี้มีซากไม้ขนาดใหญ่จมอยู่ ซึ่งสันนิษฐานว่าอาจจะเป็นเรือ เพราะคนที่หว่านแหหาปลามักจะติดซากไม้จนดึงขึ้นไม่ได้ ต้องลงไปแกะแหออกทุกครั้ง แต่ก็ยังไม่เคยมีใครลงมาดึงเรือขึ้นได้ เนื่องจากบริเวณนี้จะมีน้ำลึกกว่าจุดอื่นๆ ต่อมาในช่วงนี้สภาพน้ำในลำน้ำมูลได้แห้งขอด จนบริเวณใต้สะพานน้ำขาดจากกันเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 30 ปี “ดังนั้นเมื่อ 4-5 วันที่ผ่านมาจึงทำให้ชาวบ้านพากันมาหาปลากันที่บริเวณใต้สะพานข้ามลำน้ำมูลกันอย่างคึกคัก ซึ่งตนก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย โดยชาวบ้านหลายคนก็รู้ว่าบริเวณใต้น้ำมีซากไม้ขนาดใหญ่อยู่ แต่ไม่มีใครสนใจ ต่อมาเมื่อคืนที่ผ่านมามีผู้หญิงคนหนึ่งใส่ชุดไทยมาเข้าฝันว่าอยากขึ้นจากน้ำ ขอให้ตนและชาวบ้านช่วยนำขึ้นมาจากน้ำที ซึ่งรุ่งเช้าก็เล่าให้ชาวบ้านที่มาหาปลาด้วยกันฟัง ทำให้ชาวบ้านหลายคนพากันงมไปสำรวจใต้น้ำ ที่มีความลึกเพียงประมาณ 1.5 เมตร ก็พบว่าเป็นท้องเรือที่คว่ำอยู่ จึงได้พากันลากขึ้นมาไว้ที่บริเวณชายฝั่ง และยังพบรูปหล่อแม่ย่านาง ที่เชื่อว่าเป็นผู้หญิงใส่ชุดไทยที่มาเข้าฝันด้วย จึงทำให้ชาวบ้านที่ทราบข่าวพากันแห่มากราบไหว้กันอย่างคึกคัก” นางจุไรรัตน์กล่าว
ต่อมาได้มีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำชุมชนในพื้นที่ ต.ท่าช้าง อ.เฉลิมพระเกียรติมาร่วมสังเกตการณ์หลายคน ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่เชื่อว่าเรือดังกล่าวเป็นเรือพาณิชย์โบราณ ที่พ่อค้าล่องเรือมาตามลำน้ำมูลเพื่อมาค้าขายกับชาวโคราชเมื่อประมาณ 100 ปีมาแล้ว และยังสันนิษฐานว่าไม้ที่ทำเรือเป็นไม้ตะเคียน เนื่องจากมีความทนทานไม่ผุกร่อนง่าย ดังนั้นจึงพร้อมใจกันลงมติว่าจะนำซากเรือและรูปหล่อแม่ย่านางขึ้นมาตั้งไว้หน้าศาลพระภูมิบริเวณหัวสะพาน เพื่อให้ชาวบ้านได้กราบไหว้บูชาต่อไป
