สธ.ขอนแก่นเตือน ปชช.ดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด ระวังโรคมือเท้าปาก

เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น แจ้งเตือนพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดขอนแก่นให้เฝ้าระวังสุขภาพตนเอง โดยเฉพาะบุตรหลานที่เป็นเด็กเล็กอายุน้อยกว่า 5 ปี หากติดเชื้อ โรคมือเท้าปาก อาจเป็นอันตรายถึงตายจากภาวะสมองอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หรือนํ้าท่วมปอด เพียงแค่ล้างมือให้สะอาด ก็มีโอกาสที่จะปลอดภัยจากโรคมือเท้าปากได้

นายแพทย์พีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ในช่วงหน้าฝน หลายคนมักจะได้ยินข่าวคราว “โรคมือเท้าปาก” ระบาดบ่อยครั้งโดยเฉพาะในเด็กเล็กช่วงเปิดเทอม จนหลายโรงเรียนต้องประกาศหยุดเรียน โดยโรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัสลำไส้หลายชนิด พบได้บ่อยในเด็กทารก และเด็กอายุตํ่ากว่า 5 ปี ในโรงเรียนอนุบาล สถานรับเลี้ยงเด็ก ศูนย์เด็กเล็ก สถานที่เล่นของเด็กในห้างสรรพสินค้า โดยโรคนี้เกิดประปรายตลอดปี แต่จะเพิ่มมากขึ้นในฤดูฝนซึ่งอากาศเย็นและชื้น การติดต่อส่วนใหญ่เกิดจากได้รับเชื้อไวรัสเข้าสู่ปากโดยตรง โดยเชื้อไวรัสติดมากับมือหรือของเล่นที่เปื้อนน้ำลาย น้ำมูก น้ำจากตุ่มพองและแผล หรืออุจจาระของผู้ป่วย จากการไอจามรดกัน อาการป่วย เริ่มด้วยมีไข้ตํ่าๆ อ่อนเพลีย ต่อมาอีก 1-2 วัน มีอาการเจ็บปาก กลืนนํ้าลายไม่ได้ และไม่ยอมทานอาหาร เนื่องจากมีตุ่มแดงที่ลิ้น เหงือก และกระพุ้งแก้ม จะพบตุ่มหรือผื่นนูนสีแดงเล็ก ที่ฝ่ามือ นิ้วมือ ฝ่าเท้า และที่ก้น ปกติโรคมักไม่รุนแรงและไม่มีอาการแทรกซ้อน แต่เชื้อไวรัสบางชนิดอาจทำให้มีอาการรุนแรง อาทิ ภาวะสมองอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หรือนํ้าท่วมปอด ถึงขั้นเสียชีวิตได้ สำหรับจังหวัดขอนแก่นยังไม่พบการระบาดของโรคนี้ โดยมีมาตรการป้องกันกรณีมีเด็กป่วยจำนวนมาก ในโรงเรียนหรือสถานรับเลี้ยงเด็กต้องดำเนินการ ดังนี้ 1.ปิดห้องเรียนที่มีเด็กป่วยหรือปิดทั้งโรงเรียนชั่วคราว (ประมาณ 5-7 วัน) 2.ทำความสะอาดสถานที่เพื่อฆ่าเชื้อโรค บริเวณห้องนํ้า ห้องส้วม สระว่ายนํ้า ครัว โรงอาหาร บริเวณที่เล่นของเด็ก สนามเด็กเล่น โดยใช้ผงซักฟอก หรือสบู่ทำความสะอาดก่อนแล้วตามด้วยนํ้ายาฟอกขาว ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีแล้วล้าง/เช็ด/แช่ ด้วยนํ้าสะอาดเพื่อป้องกันสารเคมีตกค้าง 3.ทำความสะอาดของเล่น เครื่องใช้ของเด็กด้วยการซักล้างแล้วผึ่งแดดให้แห้ง 4.หยุดใช้เครื่องปรับอากาศ เปิดม่าน ให้แสงแดดส่องให้ทั่วถึง

นายแพทย์พีระ อารีรัตน์

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่นกล่าวต่อว่า โรคนี้ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน แต่ป้องกันได้โดยการรักษาสุขอนามัย ผู้ปกครองควรแนะนำบุตรหลานและผู้เลี้ยงดูเด็กให้ล้างมือให้สะอาดด้วยนํ้าและสบู่ ทั้งก่อนและหลังเตรียมอาหาร ก่อนรับประทานอาหาร ภายหลังการขับถ่ายหรือเปลี่ยนผ้าอ้อม หลังการดูแลเด็กป่วย ตัดเล็บให้สั้น หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของร่วมกัน เช่น ขวดนม แก้วนํ้า หลอดดูด ผ้าเช็ดหน้า และผ้าเช็ดมือ และใช้ช้อนกลาง สถานรับเลี้ยงเด็กและโรงเรียนอนุบาล ต้องจัดให้มีอ่างล้างมือและส้วมที่ถูกสุขลักษณะ หมั่นดูแลรักษาสุขลักษณะของสถานที่และอุปกรณ์เครื่องใช้ให้สะอาดอยู่เสมอ รวมถึงการกำจัดอุจจาระเด็กให้ถูกต้องด้วย หากพบเด็กป่วย ต้องรีบแยกเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่ไปยังเด็กคนอื่นๆ รีบพาเด็กไปพบแพทย์ และหยุดการเรียน เพื่อรักษาตัวที่บ้านประมาณ 5-7 วัน หรือจนกว่าจะหายเป็นปกติ ระหว่างนี้ควรสังเกตอาการผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น ไม่ควรพาเด็กไปในสถานที่แออัด เช่น สนามเด็กเล่น สระว่ายนํ้า ตลาด และห้างสรรพสินค้า ควรอยู่ในที่ที่มีการระบายถ่ายเทอากาศได้ดี ใช้ผ้าปิดจมูก ปาก เวลาไอจาม และระมัดระวังการไอจามรดกัน ผู้เลี้ยงดูเด็กต้องล้างมือให้สะอาดทุกครั้งหลังสัมผัสนํ้ามูก นํ้าลาย หรืออุจจาระเด็กป่วย เพียงแค่ล้างมือให้สะอาด ก็มีโอกาสที่จะปลอดภัยจากโรคมือเท้าปากได้ไม่ยาก และยังเป็นการลดการเกิดโรคติดต่อได้ทางหนึ่ง จึงประชาสัมพันธ์มาให้ทราบโดยทั่วกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image