ทีมแพทย์ รพ.สังขละบุรี ติดกลางป่าพม่ากว่า 6 ชม. ขณะเข้าไปช่วยหญิงป่วยไส้ติ่ง สุดท้ายถึงมือหมอปลอดภัย

ทีมแพทย์พยาบาล ใช้เวลากว่า 17 ชม. เสี่ยงอันตรายฝ่าความมืดและน้ำป่า เข้าไปช่วยลำเลียงหญิงวัย 19 ชาวบ้านจะแก ที่ป่วยด้วยอาการไส้ติ่งอักเสบ ส่งโรงพยาบาลได้สำเร็จ หลังจากทีมแรกที่เข้าไปช่วย เครื่องยนต์ขัดข้องหลังลุยน้ำป่าในฝั่งพม่า คนไข้ และแพทย์ พยาบาล ติดอยู่กลางป่า ฝั่งประเทศพม่า นานกว่า 6 ชม.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (19 ส.ค.61) นพ.กฤษดา วุฑธากร ผอ.โรงพยาบาลสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจาก จนท.อนามัยบ้านจะแก หมู่ที่ 6 ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ว่ามีผู้ป่วย ซึ่งทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.สุภาพร เก่งเดินดง อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 หมู่ 6 บ้านจะแก ต.ไล่โว่ มีอาการป่วยด้วยอาการปวดท้องน้อยด้านขวาอย่างรุนแรง และมีไข้ติดต่อกันมา 2 วัน ประกอบกับมีอาการคลื่นไส้ แต่ไม่อาเจียน จำเป็นต้องนำส่งโรงพยาบาลเป็นการเร่งด่วน จึงประสานขอการสนับสนุนการลำเลียงผู้ป่วยทางอากาศยาน จากสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน แต่เฮลิคอปเตอร์ไม่สามารถบินเข้าพื้นที่ได้ เนื่องจากสภาพอากาศปิด ฝนตกตลอดทั้งวัน จึงได้เปลี่ยนแผนเดินทางเข้าพื้นที่ด้วยรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยใช้เส้นทางด่านเจดีย์สามองค์-บ้านพยาตองซู-บ้านแม่กะสะ-เหมืองเนาวรัตน์-ช่องทางสามัคคี ในฝั่งประเทศพม่า เนื่องจากเส้นทางในประเทศไทย ซึ่งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ไม่สามารถใช้เดินทางได้ เนื่องจากเส้นทางถูกตัดขาดหลังจากเกิดภัยพิบัติน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่

โดยคณะออกเดินทางจากสังขละบุรีเมื่อเวลา 10.00 น. จนเมื่อเวลา 20.00 น. ทีมงานชุดแรกได้วิทยุติดต่อกลับมาว่าไม่สามารถเดินทางกลับมาได้ เนื่องจากรถยนต์มีปัญหา ขณะข้ามลำน้ำที่มีระดับสูงเนื่องจากเป็นช่วงน้ำป่า ขณะนี้ทั้งหมดได้ติดอยู่กลางป่า ไม่มีอาหารน้ำดื่ม ก่อนถึงเหมืองเนาวรัตน์ โดยอาศัยก่อกองไฟให้ความสว่าง ส่วนคนไข้ยังมีสภาพไม่ค่อยดี ต้องการความช่วยเหลือเพื่อส่งคนไข้กลับมาโรงพยาบาลด่วน

Advertisement

 

ต่อมาเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลได้ประสาน ขอสนับสนุนรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ ในการเดินทางเข้าไปรับผู้ป่วยในฝั่งพม่า เนื่องจากหากทีมโรงพยาบาลเดินทางไปคันเดียวเกรงจะไม่ได้รับความปลอดภัย อีกทั้งหากรถยนต์มีปัญหา จะไม่สามารถนำผู้ป่วยมาถึงโรงพยาบาลได้ในคืนนี้ จึงประสานของความช่วยเหลือจาก ร.ต.ต.สุรศักดิ์ เสียงดัง รอง.สวป.สภ.สังขละบุรี สนับสนุนรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ เดินทางเข้าไปรับผู้ป่วย พร้อมทีมแพทย์ รพ.สังขละบุรี โดยได้รับการช่วยเหลือ จากหน่วยกู้ชีพพญาตองซู (พม่า) และอาสาสมัครพิทักษ์กาญจน์จุดบ้านพระเจดีย์สามองค์ ในการนำทีมไปช่วยเหลือ โดยออกเดินทางจากด่านเจดีย์สามองค์ เข้าไปในฝั่งพม่า เส้นทางเดียวกับทีมแรกที่เข้าไปช่วยเหลือ ท่ามกลางการเดินทางที่เต็มไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากเส้นทางเป็นภูเขาสูง เป็นดินโคลน มีหลุมบ่อ เนื่องจากเพิ่งผ่านอุทกภัยในวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา ต้องข้ามลำธารน้อยใหญ่มากกว่า 20 แห่ง

จนในที่สุดไปพบทีมช่วยเหลือทีมแรกและผู้ป่วยที่รอคอยความช่วยเหลือ ขณะก่อไฟกองใหญ่รออยู่ริมถนนกลางป่าในพม่า ก่อนเคลื่อนย้ายผู้ป่วยขึ้นรถและเดินทางกลับประเทศไทยและสามารถนำผู้ป่วยส่งถึงโรงพยาบาลได้อย่างปลอดภัย ในเวลา 03.30 น. ของวันนี้ (20 ส.ค.61) ท่ามกลางความดีใจของทุกฝ่าย

Advertisement

โดย นายสิงหา ไทรสังขกมล สามีของ นางสุภาพร เก่งเดินดง เปิดเผยความรู้สึกว่า ดีใจมากที่ภรรยามาถึงโรงพยาบาลด้วยความปลอดภัย ต้องขอขอบคุณทุกคนที่เสียสละเข้าไปช่วยเหลือ แม้รู้ว่าการเข้าไปช่วยเหลือมีความเสี่ยงและอันตราย เนื่องจากเป็นเส้นทางต่างประเทศ ซึ่งไม่ปลอดภัย แต่ทุกคนก็ยังพยายามมาช่วย

การเดินทางมาโรงพยาบาลของชาวบ้านจะแก ยามเจ็บป่วยเป็นความทุกข์ของชาวบ้าน เนื่องจากหมู่บ้านตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ซึ่งไม่ได้รับอนุญาตในการสร้างถนน จึงต้องอาศัยเส้นทางในฝั่งประเทศพม่า ซึ่งหากไม่มีความจำเป็นชาวบ้านก็ไม่อยากใช้ เนื่องจากในฝั่งพม่าเองยังไม่มีเอกภาพ มีการแบ่งกองกำลังเป็นหลายกลุ่ม ทั้งนี้เมื่อหลายเดือนก่อน ชาวบ้านจะแก เคยถูกชนกลุ่มน้อยทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากเมื่อผ่านด่านชนกลุ่มน้อยแล้วถูกเจ้าหน้าที่มีอาการเมาสุราทำร้าย จนได้รับบาดเจ็บแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ จึงอยากฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยพิจารณาความจำเป็นในเรื่องเส้นทางด้วย ส่วนภรรยาตนขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว โดยแพทย์สันนิฐานว่า เป็นไส้ติ่งอักเสบ โชคดีที่มาถึงโรงพยาบาลได้ทันท่วงที
สำหรับการปฏิบัติการช่วยเหลือในครั้งนี้ใช้เวลารวมกว่า 17 ชม. ซึ่งหากเป็นผู้ป่วยที่มีอาการหนัก ก็อาจจะเสี่ยงอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image