ผู้ว่าฯอยุธยาเรียกประชุมด่วน ประเมินสถานการณ์น้ำหลังฝนอ่วม ย้ำ ‘นาปรัง’ ต้องเกี่ยวก่อน 15 ก.ย.

เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เรียกหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องประชุมติดตามสถานการณ์น้ำ หลังจากมีฝนตกหนักต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเขตภาคเหนือและภาคกลางตอนบน ซึ่งน้ำทั้งหมดจะต้องไหลลงแม่น้ำเจ้าพระยาและจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถือเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำของภาคกลางที่มักจะได้รับผลกระทบในทุกปี

โดยหลังจากการประชุม ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้เปิดเผยว่า ถึงวันนี้ในพื้นทียังไม่มีภาวะน้ำล้นตลิ่งหรือน้ำท่วม แต่ให้ทุกฝ่ายเตรียมความพร้อม ทั้งแผนปฏิบัติการ งบประมาณ เครื่องจักร และกำลังคน โดยในพื้นที่มีจุดเสี่ยงเฝ้าระวังจำนวน 52 แห่ง และมี 6 อำเภอแรกที่จะได้รับผลกระทบ หากเขื่อนเจ้าพระยาปล่อยน้ำในปริมาณสูงกว่านี้คือ อำเภอบางบาล ผักไห่ เสนา พระนครศรีอยุธยา บางปะอิน และบางไทร

“ขณะเดียวกัน ได้แบ่งโซนพื้นที่จังหวัดออกเป็น 4 โซน คือ 1.โซนอุตสาหกรรม มีแนวป้องกันน้ำท่วมถึง 3 ชั้น มั่นใจว่าจะไม่ได้รับผลกระทบ 2.โซนชุมชนเมือง เศรษฐกิจ รวมถึงโบราณสถาน มีแนวป้องกันน้ำท่วมอย่างดี 3.พื้นที่เกษตรกรรม จำนวนกว่า 7 แสนไร่ ซึ่งอยู่ในเขตชลประทาน มีการทำนาเหลื่อมเวลา ตรงจุดนี้กำหนดเน้นย้ำให้ชาวนาเก็บเกี่ยวข้าวนาปรังรอบที่ 2 ให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 15 กันยายนนี้ จากนั้นหากน้ำเหนือมีจำนวนมาก พื้นที่ทุ่งนานี้จะกลายเป็นแก้มลิง และ 4.โซนพื้นลุ่มต่ำติดแม่น้ำ ซึ่งจะต้องถูกน้ำท่วมตามธรรมชาติ ให้ทุกฝ่ายเตรียมพร้อมเร่งเยี่ยวยาบรรเทาทุกข์” นายสุจินต์กล่าว

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image