ญาติเดือด! ทหารเกณฑ์ถูกซ่อมคาค่ายทหารที่ลพบุรี อาการสาหัส

เมื่อวันที่ 22 ส.ค. มีการแชร์ข้อความจาก ผู้ใช้เฟสบุ๊ก ซึ่งเป็นญาติของ พลทหารคชา พะชะ อายุ 22 ปี ทหารเกณฑ์สังกัดหน่วยทหารแห่งหนึ่งใน จ.ลพบุรี ระบุว่า โดนซ้อมและรอให้อาการสาหัสถึงนำส่งโรงพยาบาล

“เข้มแข็งไว้นะพ่อน้องโฟร์เป็นคนดีอีกไม่นานเดี๋ยวก็หาย ต้องกับมาเป็นเสาหลักของครอบครัวที่อบอุ่นเหมือนเดิม สู้นะพ่อน้องโฟร์ เป็นห่วงทั้งคนนอนอยู่ทั้งคนเฝ้าเลยนะ #ขอให้พระพุทธชินราช คุ้มครองให้ปลอดภัย #นายทหาร คชา พะชะ ไปทหารอยู่หน่วยรบพิเศษได้กลับบ้านสามเดือนครั้ง โดนซ้อมและรอให้อาการสาหัสถึงนำส่งโรงพยาบาล เคยเห็นแต่ในทีวี ไม่คิดว่าจะเรื่องเเบบนี้จะมาเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัว #แล้วเรื่องนี้ใครจะรับผิดชอบ พี่เรา หลานเรา และหลานที่อยู่ในท้องอีกหนึ่งคน ถ้าพ่อเขาสามีเขาเป็นอะไรขึ้นมาต่อให้เอาชีวิตพวกคุณมาแรกก็ไม่มีวันทดแทนได้ คนทำคงมีอำนาจสูงสินะ #ฝากแชร์ขอความเป็นธรรมให้พี่สาวด้วยค่ะ อย่าให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวใครอีกเลย”

ต่อมาเฟสบุ๊ก บอย กรุงเก่า ซึ่งเป็นญาติพลทหารคนดังกล่าว ได้โพสต์เฟสบุ๊กระบุว่า นี่คือสิ่งทหารไทยทำ ……ซ้อมคนจนเกือบตาย ….หน้าไหนรับผิดชอบ ไม่เจอกับญาติพี่น้องมึง มึงจะไปรู้สึกอะไร ขอให้หายๆไวๆ ทุกคนเป็นกำลังใจให้ ตื่นขึ้นมาหาพี่หาน้อง เด้อทหารเข้ม

ล่าสุด น้าสาวของพลทหารคชา ได้เปิดเผยเหตุการณ์ทั้งหมดกับข่าวสดว่า  เมื่อกลางดึกวันที่ 21 ส.ค. แฟนสาวของเพื่อนหลานโทรมาบอกกับภรรยาของหลานว่า หลานเข้าโรงพยาบาล โดยมีการหัวใจหยุดเต้น แต่ไม่แจ้งว่าเกิดจากสาเหตุอะไร พ่อของหลานจึงโทรศัพท์ไปสอบถามที่ค่าย มีนายทหารคนหนึ่งรับสาย แต่ไม่ทราบรายละเอียด บอกแค่ว่าไปส่งโรงพยาบาลแล้ว ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมงก็มีนายทหารอีกคนหนึ่งโทรมาหาพ่อหลานว่า หลานกำลังจัดสัมภาระเตรียมจะเข้าป่าไปฝึก แล้วอยู่ดีๆ หลานก็น็อก จึงนำส่งโรงพยาบาลอานันทมหิดล ซึ่งห่างจากค่ายประมาณ 15 นาที

Advertisement

น้าพลทหารคชา กล่าวต่อว่า ต่อมาประมาณตี 2 วันที่ 22 ส.ค. คุณหมอได้โทรมาบอกกับพ่อและแม่ของหลานว่า หลานหัวใจหยุดเต้น ได้ทำการปั๊มหัวใจมา 15 นาทีแล้ว ถ้าปั๊มแล้วยังไม่ขึ้นจะให้ปั๊มต่อหรือไม่ เพราะเขากลัวว่าซี่โครงจะหัก พ่อกับแม่ก็ยืนยันว่าให้ปั๊มจนกว่าหัวใจจะเต้น จากนั้นแม่และภรรยาของหลานได้เดินทางไปถึงโรงพยาบาลประมาณ 6 โมงเช้า พบว่าหลานอยู่ในห้องไอซียู และใส่เครื่องช่วยหายใจ ซึ่งคุณหมอบอกว่าโอกาสรอดมีแค่ 30 เปอร์เซ็นต์ และให้แม่ทำใจ ถ้าฟื้นขึ้นมาอาจจะไม่เหมือนเดิม เพราะสมองขาดออกซิเจนนาน เนื่องจากหัวใจหยุดเต้นไป 2-3 ครั้ง ตอนมาถึงโรงพยาบาลก็มีอาการไตวายด้วย

น้าพลทหารคชา กล่าวอีกว่า แม่ได้เข้าไปหาหลานที่ห้องไอซียู หลานก็ลืมตามอง และน้ำตาไหล ก่อนหลับไป แต่ยังขยับร่างกายไม่ได้ จากนั้นช่วงสาย พ่อหลานก็โทรไปหานายทหารคนหนึ่งซึ่งมียศพันโทว่า น้องไม่น่าน็อกไปเอง เพราะไม่มีโรคประจำตัว และเป็นคนแข็งแรง อยู่ดีๆ จะน็อกไปได้อย่างไร นายทหารคนดังกล่าวก็ยอมรับกับพ่อว่ามีพลทหารรุ่นพี่ 3 คน ทำการซ่อมหลานจริง เขาจับทั้ง 3 คน ขังคุกทหารไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ดำเนินคดีอะไร เบื้องต้นทั้ง 3 คน รับสารภาพว่าซ่อมรุ่นน้องจริง นายทหารคนดังกล่าวก็บอกว่าจะรักษาและดูแลเต็มที่ แต่ไม่อยากให้เป็นข่าว

น้าพลทหารคชา กล่าวว่า พี่สาวของตนซึ่งเป็นแม่หลานบอกว่า ได้จับตัวน้องพลิกดูเบื้องต้นพบว่าตามหน้าอกและเอวมีรอยบวมขึ้นมา แต่แม่ไม่กล้าดูเยอะ เพราะทำใจไม่ได้ หลังจากที่เข้าไปเยี่ยมรอบแรกยังสามารถถ่ายรูปหลานได้ แต่ต่อมากลับมีทหารเข้ามายืนคุมไม่ให้ถ่ายรูป ตอนนี้อาการหลานยังทรงตัว และต้องรอดูอาการไปเรื่อยๆ ทางครอบครัวก็ร้อนใจ เพราะเห็นว่าหลานไม่ดีขึ้นเลย และอยากย้ายไปโรงพยาบาลอื่น แต่นายทหารคนดังกล่าวก็เกลี้ยกล่อม แล้วถามว่า แม่จะมีเงินรักษาเหรอ และพูดจาเหมือนกับว่าน้องจะไม่ฟื้น

Advertisement

น้าพลทหารคชา กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาตั้งแต่หลานเข้าประจำการเป็นทหารเกณฑ์ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2560 ก็ยังไม่เคยมีเหตุการณ์รุนแรงแบบนี้เกิดขึ้น แต่เมื่อประมาณเดือนที่แล้ว หลานลากลับมาพักที่บ้าน แล้วมีรุ่นพี่วิดีโอคอลมาหาและตามให้กลับก่อนกำหนด แต่หลานไม่ได้ไป รุ่นพี่ก็สั่งให้วิดพื้นทั้งที่อยู่บ้าน ซึ่งขณะนั้นหลานกำลังนั่งกินข้าวอยู่กับครอบครัวด้วย ตนรู้สึกว่าอาจจะมีการไม่ชอบกันหรือข่มกันหรือเปล่า

“เห็นข่าวลักษณะนี้มาเยอะ ไม่คิดว่าจะมาเจอกับครอบครัวตัวเอง ตอนนี้มีทนายคนหนึ่งติดต่อมาว่าจะช่วยทำเอกสารให้และจะพาไปร้องเรียนกับนายกรัฐมนตรี สำหรับเรื่องคดีความก็อยากให้เป็นไปตามกฎหมาย และเอาผิดกับคนกระทำให้ได้ เพราะทำกันเกินไป” น้าพลทหารคชากล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image