ผู้การสุราษฎร์ขอให้แหม่มผู้ดีเหยื่อข่มขืนเกาะเต่ากลับมาแจ้งความ เผยพบพิรุธหลายอย่าง

เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 27 สิงหาคม พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) สุราษฎร์ธานี พร้อม พล.ต.เกรียงไกร ศรีรักษ์ ผู้บัญชาการกองบัญชาการช่วยรบที่ 4 (ผบ.บชร.4) และกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยกองทัพภาคที่ 4 ส่วนหน้า ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินด่วนไปยังสนามหน้าที่ว่าการอำเภอเกาะพะงัน (ส่วนหน้าเกาะเต่า) ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน พร้อมตำรวจท่องเที่ยว , ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง , นายไชยันต์ ธุระสกุล นายกเทศมนตรีตำบลเกาะเต่า และผู้นำท้องถิ่น ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดทรายรี ต.เกาะเต่า ซึ่งเป็นสถานที่ น.ส.อีสเบล วิคตอเรีย แบคเตอร์ อายุ 19 ปี นักท่องเที่ยวสัญชาติอังกฤษ อ้างว่าเดินทางมาท่องเที่ยวกับเพื่อนชายชาวยุโรป ได้ถูกวางยาจนไม่รู้สึกตัวเเละถูกข่มขืน หลังจากนั่งดื่มที่บาร์แห่งหนึ่งเหตุเกิดคืนวันที่ 25 มิ.ย.2561 โดยไปแจ้งกับตำรวจ สภ.เกาะพะงัน เเต่ตำรวจไม่ลงข้อมูลเรื่องการข่มขืนเพียงลงว่าโทรศัพท์ไอโฟน 7 พลัส กับเงินสด 3,000 บาท และบัตรเดบิตจำนวน 4 ใบ หายไป

ทั้งนี้ พล.ต.ต.อภิชาติและคณะไปตรวจดูกล้องวงจรปิดบริเวณแหลมหิน จปร.หาดทรายรี เป็นสถานที่ผู้เสียหายอ้างว่าถูกข่มขืน ห่างจากร้านฟิชโบลว์บาร์ และลีโอบาร์ หาดทรายรี ที่ไปเที่ยวดื่มกินกับเพื่อนชายประมาณ 400 เมตร พบว่ามีกล้องวงจรปิด 7 ตัว เก็บบันทึกภาพได้ 7 วัน ล่าสุดคือช่วงวันที่ 28 มิ.ย.-4 ก.ค.2561 ส่วนก่อนนี้ได้ถูกบันทึกทับไปแล้ว

พล.ต.ต.อภิชาติได้สอบถาม น.ส.ภัทรา แจ่มตระกูล อายุ 32 ปี เจ้าของที่พักเดอะไฮ โฮสเทล (THE HIVE) ที่ผู้เสียหายเข้าพัก ให้ข้อมูลว่า น.ส.อีสเบล ได้จองที่พักไว้วันที่ 21-23 มิ.ย.2561 แต่ได้ขอขยายเวลาต่อถึงวันที่ 26 มิ.ย.2561 โดยพักในที่เดียวกันรวม 5 คน มี น.ส.อีสเบล กับเพื่อนชายอีก 4 คน โดยคืนวันที่ 25 มิ.ย. น.ส.อีสเบลกับกลุ่มเพื่อนทั้ง 5 คนได้นัดกับตนไว้ให้พบกันที่ร้านฟิชโบลว์บาร์ตอน 5 ทุ่ม พอถึงเวลาไม่เห็นมาตามนัดตนเข้าใจว่าคงไปเที่ยวกันเองตนจึงกลับมาก่อน เพราะปกติกลุ่มนี้จะกลับที่พักตอนตี 2 ทุกคืน

Advertisement

น.ส.ภัทรากล่าวว่า ช่วงเช้า น.ส.อีสเบลมาบอกว่าถูกวางยาในเครื่องดื่มและถูกข่มขืนบริเวณแหลมหิน จปร. และเอาทรัพย์สินไป จึงได้แนะนำให้ไปแจ้งความ แต่ น.ส.อีสเบล อ้างว่าจะรีบไปเกาะพะงันไปพบแฟนหนุ่มกับเพื่อนชาวอังกฤษที่มางานฟูลมูนปาร์ตี้ ซึ่งพยายามคะยั้นคะยอให้ไปแจ้งความก่อนแต่ก็ไม่ไป และตนเองไม่ได้ติดตามเรื่องเพราะไม่แน่ใจเกิดเหตุจริงหรือไม่ เนื่องจากเขามักจะออกไปดื่มเที่ยวกินกลับช่วงเวลาดังกล่าว

“กระทั่งวันที่ 4 ก.ค.เพื่อนชายคนสนิทชื่อนายมาติน ได้มาปรึกษากับตนว่ายังสามารถแจ้งความให้ น.ส.อีสเบล ได้หรือไม่ จึงได้พานายมาร์ตินไปที่ สภ.เกาะเต่า ซึ่งตำรวจไม่สามารถรับแจ้งได้เนื่องจาก น.ส.อีสเบล ไม่ได้มาด้วย แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาไปดูกล้องวงจรปิดบริเวณที่อ้างว่าเป็นจุดเกิดเหตุ พบว่ากล้องเก็บข้อมูลได้เพียง 7 วัน และทราบว่าในคืนวันที่ 26 มิ.ย. นายมาร์ตินได้ชกต่อยกับแฟนของ น.ส.อีสเบลที่เกาะพะงัน จนทำให้ฟันหน้าบิ่นแตกหัก” น.ส.ภัทรากล่าว

Advertisement

รายงานข่าวแจ้งว่า ช่วงวันที่ 22-23 มิ.ย.ที่ผู้เสียหายพักอยู่กับเพื่อนชายอีก 4 คนที่เกาะเต่าได้มีสัมพันธ์กับเพื่อนชายคนสนิทคนหนึ่ง(นายมาร์ติน) โดย น.ส.อีสเบล บ่นกับน.ส.ภัทรา ว่ารู้สึกผิดกับการกระทำดังกล่าว

ต่อมา พล.ต.ต.อภิชาติ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปยัง สภ.เกาะพะงัน เข้าตรวจสอบหลักฐานการลงบันทึกประจำวัน โดย ร.ต.อ.กฤษฎา ทองสกุล รองสารวัตรสอบสวน สภ.เกาะพะงัน ชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.2561 น.ส.อีสเบลเดินทางมากับเพื่อนชาย (นายมาร์ติน) ขอแจ้งความทรัพย์สินสูญหาย แต่ตนแจ้งว่าไม่สามารถแจ้งความได้ เนื่องจากอยู่นอกพื้นที่เกิดเหตุ แต่ทางผู้เสียหายยืนยันว่าขอแจ้งความเพื่อไปเคลมประกันเท่านั้น จึงได้อำนวยความสะดวกให้ลงบันทึกประจำวัน ซึ่งในวันนั้นตลอดเหตุการณ์เกือบทั้งหมด เพื่อนชายคนนี้จะเป็นคนพูดแทนผู้เสียหาย ทั้งที่ผู้ที่ลงชื่อแจ้งบันทึกเป็นผู้หญิง

พล.ต.ต.อภิชาติเปิดเผยว่า ได้มีคำสั่ง ที่ 817/2561 แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจข้อเท็จจริง โดยมี พ.ต.อ.วิชอบ เกิดเกลี้ยง รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เป็นประธาน ให้เร่งรัดสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดเพื่อให้ได้ความว่ามีเหตุการณ์จริงหรือไม่อย่างไร ถ้าจริงให้แจ้งไปยังผู้เสียหาย หากต้องการดำเนินคดีให้มอบอำนาจให้พนักงานสอบสวนดำเนินการ ซึ่งไม่ว่ามีความผิดเกิดขึ้นหรือไม่จะสั่งให้คณะกรรมการลงมารวบรวมพยานหลักฐานเป็นสำนวนไว้

พล.ต.ต.อภิชาติกล่าวว่า ประสานฝ่ายปกครองในพื้นที่ดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มขวด ให้กวดขันจับกุมประเภทที่เสี่ยงต่อการเกิดอาชญากรรม โดยเฉพาะแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย การประกอบอาชีพผิดกฎหมายของชาวต่างขาติ สถานบริการ แหล่งมั่วสุมทุกประเภท โดยให้จัดกำลังตรวจชายหาดสถานที่ท่องเที่ยวตลอด 24 ชั่วโมง โดยขอความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดอาสาสมัคร ชุดเดินเท้า และขอให้ผู้ประกอบการช่วยดูแลนักท่องเที่ยว

“พนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน ชี้แจงยืนยันว่ามีการแจ้งเฉพาะเรื่องทรัพย์สินสูญหาย จึงให้ พ.ต.อ.สถิต คงเนียน ผกก.สภ.เกาะพะงัน ตั้งชุดตรวจสอบว่าผู้เสียหายมาอยู่ที่เกาะพะงันกับใครมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง และมีการพูดถึงเหตุการณ์ที่เกาะเต่าบ้างหรือไม่ หากเป็นเรื่องกระทำอนาจารจะต้องแจ้งความร้องทุกภายใน 3 เดือน ถ้าไม่เป็นความจริงจะดูตามหลักฐานที่ปรากฏรวบรวมข้อมูลทั้งหมด เพื่อเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป” พล.ต.ต.อภิชาติกล่าว

พล.ต.ต.อภิชาติกล่าวต่อว่า ยืนยันว่าในห้วง 4 ปีนี้ไม่มีคดีเหตุการณ์ร้ายกับนักท่องเที่ยว อาจจะมีแต่เรื่องอุบัติเหตุซึ่งที่ผ่านมาจะมีการตรวจสอบโดยละเอียดร่วมกับฝ่ายปกครอง ซึ่งเคยแถลงไปหลายครั้งแล้วว่า หลายเรื่องที่ให้ร้ายเกี่ยวกับการท่องเที่ยวไม่เป็นความจริง และครั้งนี้จะติดตามดูว่าเป็นความจริงหรือไม่ จึงอยากให้ผู้เสียหายเดินทางกลับมาแจ้งความภายใน 3 เดือน หลังเกิดเหตุเพื่อความรวดเร็วและชัดเจนขึ้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image