เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2561 ที่ห้องกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวนชุดคลี่คลายคดีเรือบรรทุกนักท่องเที่ยวฟีนิกซ์เกิดภัยพิบัติทางทะเล จ.ภูเก็ต พร้อม พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท., พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ รอง ผบช.สกบ., พล.ต.ต.ดำรัส วิริยะกุล รอง ผบช.ภ.8, พล.ต.ต.ปรีดี พงศ์เศรษฐสันต์ รองผู้บัญชาการ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ และ นายพีระพัฒน์ อิงพงษ์พันธ์ ผู้อำนวยการกองคดี 1 สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แถลงความคืบหน้าการดำเนินคดีเหตุเรือฟินิกซ์ล่มเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2561 ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเสียชีวิต 47 ราย โดยมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มในส่วนของเจ้าของเรือฟินิกซ์ พร้อมมารดา พี่ชาย และชายชาวจีน 1 คน 
พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ กล่าวว่า จากอุบัติเหตุเรือฟินิกซ์ล่ม เป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวจีนเสียชีวิต 47 คน จากการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานนำไปสู่การดำเนินคดีกับผู้ต้องหา 4 ราย คือ นายสมจริง บุญยัง กัปตันเรือฯ นายอ่อนจันทร์ กัณหาโยคี ช่างเรือฯ น.ส.วรลักษณ์ ฤกษ์ชัยกาล อายุ 26 ปี ผู้บริหารและกรรมการบริษัท ทีซี บลู ดรีม จำกัด ในความผิดฐาน “กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ได้รับบาดเจ็บสาหัส และได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ” ปัจจุบันการดำเนินการคืบหน้ากว่า 90% จะสามารถส่งสำนวนให้พนักงานอัยการดำเนินการต่อไป
จากการสืบสวนขยายผล พบบริษัท ทีซี บลู ดรีม จำกัด เจ้าของเรือฟินิกซ์ประกอบกิจการในลักษณะนอมินี โดยนายทุนเป็นชาวต่างชาติ ใช้คนไทยบังหน้าในการประกอบกิจการ จึงร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง และเสนอหลักฐานต่อศาลจังหวัดภูเก็ต เพื่อขอหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำนอมินีข้ามชาติ 4 คน 1 ในนั้น คือ น.ส.วรลักษณ์ ซึ่งแจ้งข้อหาไปแล้วและถูกควบคุมตัวในเรือนจำ ซึ่งจะแจ้งข้อหาเพิ่มต่อไป อีก 2 คนเป็นคนไทยที่ร่วมกันจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท คือ นายจักรพันธ์ ฤกษ์ชัยกาล และ นางยินดี ฤกษ์ชัยกาล ขณะนี้ควบคุมตัวไว้แล้ว จะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานส่งสำนวนให้พนักงานอัยการต่อไป อีก 1 คน เป็นชาวต่างชาติ คือ นายเหล่ย ฮัว เจ้าของเงินทุนและเจ้าของบริษัทที่แท้จริง ขณะนี้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว ในฐานความผิด “ร่วมกันเป็นอั้งยี่ ,ร่วมกันประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (ธุรกิจนำเที่ยว) แสดงออกว่าเป็นธุรกิจของตนแต่เพียงผู้เดียว และถือหุ้นแทนคนต่างด้าวในบริษัทจำกัด เพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยหลีกเลี่ยง หรือฝ่าฝืน พ.ร.บ. ประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวและเป็นการที่คนต่างด้าวยินยอมให้ผู้มีสัญชาติไทยกระทำการดังกล่าว” พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ กล่าว
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า กรณีน.ส.วรลักษณ์ ได้แจ้งข้อกล่าวไปหมดแล้ว และมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมในส่วนแม่และพี่ชาย วิธีการตั้งแต่ปี 2558 น.ส.วรลักษณ์ เป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท บิงทิพย์ จำกัด บริษัท อะลอ ทราเวิล จำกัด ปี 2559 ต่อเนื่องกัน เป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท ภูเก็ต แฟมิลี่ไดส์วิ่ง จำกัด และ ปี 2560 เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท ทีซี บลูดรีมจำกัด สิ่งเหล่านี้บ่งบอกว่าเป็นนอมินีทั้งสิ้น สิ่งที่ดำนินคดี คือ มาตรการ ปปง. ความผิดฐานฟอกเงิน มาตรการภาษี แจ้งว่ามีรายได้เดือนละ 200,000 บาท แต่ความจริงมีรายได้เดือนละ 1 ล้านบาทเศษ ซึ่งหลีกเลี่ยงภาษีโดยชัดเจน ทั้งหมดนี้จะรายงานไปยังรัฐบาลจีน โดยสิ่งที่การจีนต้องการคำตอบคือสาเหตุที่ทำให้คนเสียชีวิต ส่วนลักษณะทางกายภาพเรือกำลังทำการกู้ แต่มีข้อมูลค่อนข้างสมบูรณ์ โดยการสอบปากคำคนต่อเรือฟินิกซ์ ซึ่งอุตสาหกรรมจังหวัดสั่งปิดไปแล้ว เพราะต่อเรือโดยไม่ได้รับอนุญาต และดำเนินคดีไปแล้ว
นายพีระพัฒน์ อิงพงษ์พันธ์ ผู้อำนวยการ กองคดี 1ปปง. กล่าวว่า ปปง.ได้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน เบื้องต้นพบมีแนวโน้มว่าบุคคลที่ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาอาจเกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับธุรกิจที่มีบุคคลต่างชาติเข้ามาเกี่ยวข้องลักษณะนอมินี มีความชัดเจนว่ากลุ่มผู้ต้องหารับเงินจากกลุ่มทุนต่างประเทศ และส่งเงินมาให้ผู้ต้องหา ขณะเดียวกันส่งเงินจากต่างประเทศมาที่บริษัทต่อเรือ และนำไปชำระค่าเรือ ส่วนผู้ต้องหาประกอบรายได้ได้แล้วนำเงินโอนออกไปต่างประเทศ มีเส้นทางการเงินถึงบุคคลที่โอนเข้ามาและโอนออกมา 
“กรณีมีที่ปรึกษากฎหมายออกมาบอกว่า มีการต่อรอง ยัดข้อหานอมินีนั้น คดีนี้ได้ส่งเส้นทางการเงินให้พนักงานสอบสวนตั้งแต่ช่วงแรก จึงไม่เห็นเหตุผลว่าจะต่อรองเพื่อให้รับสารภาพหรือลดโทษทำไม และเจ้าหน้าที่ ปปง.ได้นำเส้นทางทางการเงินไปสอบถามผู้ต้องหาในเรือนจำด้วย จึงไม่อยากให้สร้างความสับสนให้ประชาชนหรือเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน เพราะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้” นายพีระพัฒน์ กล่าว
