เมื่อวันที่ 20 เมษายน นายเรวัต ประสงค์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่าได้เร่งเดินหน้ารื้อร้านค้าโรตีสายไหมและร้านค้าทั่วไปที่บุกยึดริมถนนสายสำคัญของประเทศ เช่น ถนนสายเอเชียในพื้นที่อำเภอบางปะอิน อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอนครหลวง อำเภอบางปะหัน และอำเภอมหาราช เพราะก่อนหน้านี้มีการตั้งร้านค้าชิดติดถนน ติดทางร่วมทางแยก ติดคอสะพาน บังศาลาทางหลวง แบบไม่สนใจกฎหมายบ้านเมือง โดยมักนำข้ออ้างเรื่องการทำมาหากินมาอ้าง ทุกครั้งที่ฝ่ายราชการร้องขอความร่วมมือ มักไม่ได้รับการตอนรับในแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน อีกทั้งมีการตั้งร้านค้าเพิ่มขึ้นตลอด และที่ผ่านมาปัญหาดังกล่าวมีการร้องเรียนจากประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนทั่วไป ทั้งประชาชนในพื้นที่และผู้ที่วิ่งรถยนต์ผ่านด้วยเป็นถนนสายสำคัญของประเทศ ว่าเป็นจุดอันตรายและเป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุเป็นประจำ อีกทั้งทำให้บ้านเมืองรกรุงรังไม่สมกับเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก
นายเรวัตกล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้คณะกรรมการระดับจังหวัด ได้เชิญทุกหน่วยงานที่ร่วมรับผิดชอบพร้อมผู้ค้ามาเจรจาหารือ เพื่อหาทางออกร่วมกันอย่างประนีประนอม แต่พบว่ากลับมีผู้ค้าบางคนตั้งตัวเป็นแกนนำ ปลุกปั่น ยุงยง ให้ใช้วิธีการต่อต้าน และพยายามใช้กฎหมู่เหนือกฎหมาย อีกทั้งไม่สนใจแนวทางใดๆ ที่ภาครัฐพยายามนำเสนอเพื่อช่วยเหลือ โดยประกาศจะตั้งร้านค้าในจุดเดิมเพียงอย่างเดียวเท่านั้น จึงถือเป็นฟางเส้นสุดท้าย หากปล่อยไว้จะกลายเป็นปัญหาเรื้อรังเหมือนเช่นหลังวิหารหลวงพ่อมงคลบพิตร ทางภาครัฐจึงได้สนธิกำลังรื้อร้านค้า 45 ร้านที่อันตรายออกก่อนอันดับแรก ซึ่งขณะนี้ได้รื้อโครงสร้างร้านค้าไปแล้ว โดยวันนี้จะได้นำเครื่องจักรไปตักดินและวัสดุหนักที่ร้านค้านำมาเป็นฐานของร้านค้าออกให้หมด และอีก 70 ร้านค้าในจุดผ่อนปรนให้รื้อถอนภายในสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ และจะมีการเจรจาหาที่ดินริมถนนสายเอเชียใกล้หลวงพ่อทวดองค์ใหญ่จัดทำเป็นศูนย์โรตีใหม่ให้แทน
