“เขื่อนวชิราลงกรณ” ปริมาณน้ำเพิ่ม! หลังฝนตกหนัก ชาวบ้านรับผลกระทบ

เมื่อวันที่ 5 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากคำเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยาที่พยากรณ์ลักษณะภูมิอากาศ ช่วงวันที่ 4 – 6 กันยายนนี้ จะมีร่องมรสุมพาดผ่านประเทศพม่า ลาวและเวียดนาม ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้จะทำทั่วทุกภาคของประเทศไทย มีปริมาณฝนเพิ่มขึ้น ทำให้ตั้งแต่ช่วงเย็นของวานนี้ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี มีฝนตกอย่างหนักต่อเนื่องจนถึงกลางดึก ก่อนจะเริ่มเบาบางลงในช่วงเช้าวันนี้

ซึ่งจากสถานการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้ระดับในอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ บริเวณหมู่ 1 บ้านหลังเขา มีระดับสูงขึ้น จนทำให้สะพานลูกบวบที่ชาวบ้านช่วยกันสร้างขึ้นมา เพื่อใช้เดินทางเข้า-ออกหมู่บ้าน เริ่มมีความยาวไม่เพียงพอ ทำให้เด็กนักเรียน และชาวบ้าน ที่ต้องใช้เดินทางเริ่มได้รับความเดือดร้อน ในการเดินทาง โดยเด็กบางคนต้องถอดรองเท้าลุยน้ำ ประกอบกับฝนที่ตกลงมาทำให้เส้นทางเข้าออกเป็นโคลน ลื่น แม้ชาวบ้านจะช่วยกันนำหินมาเทในจุดที่เป็นหลุม แต่ก็ไม่ดีขึ้น การเดินทางโดยรถจักรยานยนต์ ต้องใช้ความระมัดระวัง และมีความยากลำบากเพิ่มขึ้น

จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ ปรับปรุงเรื่องถนนทางเข้าออกหมู่บ้านในตอนนี้ เนื่องจากเป็นทางเข้าออกเพียงทางเดียวที่มี ประกอบกับทุกวันเด็กนักเรียน และผู้ปกครองกว่า 100 คนต้องเดินทางเข้าออกมาส่งบุตรหลานไปโรงเรียน ขณะที่บริเวณเดียวกันยังมีเด็กๆ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิบ้านอุ่นรักอีกกว่า 200 ชีวิต ต้องใช้เส้นทางนี้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม คาดว่าหากยังมีฝนตก ต่อเนื่องเช่นนี้ ความยากลำบากก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน

Advertisement

อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายของวันที่ 5  กันยายน พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการ สทนช. นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน พร้อมคณะ มีกำหนดการลงพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อตรวจติดตามสถานการณ์การระบายน้ำของเขื่อนวชิราลงกรณ และเตรียมการช่วยเหลือประชาชนเพื่อลดผลกระทบให้เหลือน้อยที่สุด

ทั้งนี้คณะจะเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ จากสนามบิน พล.ม.2 รอ.ไปยังสนาม ฮ.ชั่วคราว เขื่อนวชิราลงกรณ ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี โดยจุดแรกจะเดินทางไปสังเกตระดับน้ำที่บริเวณสันเขื่อนวชิราลงกรณ จากนั้นจะหารือเป็นการภายในกับเลขาธิการ สทนช. อธิบดีกรมชลประทาน ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี และ ผอ.เขื่อนวชิราลงกรณ โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟัง

จากนั้นคณะรองนายกรัฐมนตรี จะทำการบินสำรวจสภาพลำน้ำ เส้นทางเขื่อนวชิราลงกรณ – เขื่อนแม่กลอง – เขื่อนศรีนครินทร์ – เขื่อนแม่กลอง ก่อนจะลงดูสถานการณ์น้ำที่เขื่อนแม่กลอง พร้อมติดตามข้อมูลการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนแม่กลอง และประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี จ.ราชบุรี จ.สมุทรสงคราม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

Advertisement

สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ซึ่งมีความจุอ่าง 8,860 ล้านลูกบาศก์เมตร ที่ระดับ 155 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) ปัจจุบันมีปริมาณน้ำในเขื่อน 8,408 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 95% มากกว่าเกณฑ์ควบคุม (URC) 2.07 ม. โดยวานนี้ (4 ก.ย.61) มีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ 90.62 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนอยู่ที่ระดับ 153.80 ม.รทก. เพิ่มขึ้นจากวันที่ 3 กันยายน 2651 (153.71 ม.รทก.) 0.09 ม.รทก. และได้มีการระบายน้ำออกตามแผนการระบายน้ำ 55.74 ล้านลูกบาศก์เมตร (รวมระบายน้ำผ่านสปิลเวย์ 13.95 ล้าน ลบ.ม.แล้ว) ซึ่งอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณยังสามารถรับน้ำได้อีก 452 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 5.1%

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image