จี้โยธาธิการจังหวัด แจงใช้งบปรับปรุงลานต้นศรีมหาโพธิ์ บนเขาช่องกระจก กก.เร่งสรุป 15 วัน

จากกรณีผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สั่งตั้งกรรมการสอบหาข้อเท็จจริงภายใน 15 วันเพื่อหาหน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบดูแลที่ดินบนช่องกระจก ภายหลังต้นศรีมหาโพธิ์อายุ 60 ปี บริเวณจุดชมวิวด้านทิศตะวันออกด้านหลังป้ายแสดงประวัติที่มีพระนามาภิไธยย่อ ภปร. และ สก. บนเขาช่องกระจก ตรงข้ามศาลากลางจังหวัด ในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ ถูกตัดโค่นถอนรากถอนโคน โดยต้นพระศรีมหาโพธิ์ดังกล่าว พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช บรมนาถบพิตร ทรงปลูกเมื่อคราวเสด็จพระราชดำเนินขึ้นเขาช่องกระจก วันที่ 12 มิถุนายน 2501 นั้น

เมื่อวันที่ 5 กันยายน นายนิพล ทองเก่า อายุ 31 ปี ตัวแทนสื่อมวลชนได้เดินทางไปยื่นเรื่องร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรม ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อขอให้นายสมบูรณ์ นวลเจริญ หัวหน้าสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีการใช้งบประมาณ 16.8 ล้านบาทปรับปรุงภูมิทัศน์เขาช่องกระจก หลังจากเมื่อวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา หัวหน้าสำนักงานโยธาธิการจังหวัดชี้แจงข้อมูลบางส่วนในการแถลงข่าวกับสื่อมวลชน กรณีการก่อสร้างรอบลานต้นศรีมหาโพธิ์บนเขาช่องกระจก แต่ข้อมูลยังไม่ครบถ้วน เนื่องจากไม่ได้นำภาพถ่ายบริเวณลานต้นศรีมหาโพธิ์ในอดีตนำเสนอ ก่อนมีการออกแบบและก่อสร้างใหม่ในปัจจุบัน เนื่องจากขณะนี้มีแชร์ภาพและข้อมูลในสังคมโซเชียลระบุว่าการก่อสร้างดังกล่าวอาจมีผลกระทบกับระบบรากของต้นศรีมหาโพธิ์

นายนิพล กล่าวว่า เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และสื่อมวลชนสามารถเสนอข้อเท็จจริงได้ครบถ้วน ขอให้สำนักงานโยธาธิการจังหวัดชี้แจงรายละเอียด การส่งงานงวดที่ 13 มีการใช้งบ 1,019,400 บาท ปรับปรุงโดยรื้อถอนลานและรั้วบริเวณต้นศรีมหาโพธิ์ มีผลกระทบทำให้ต้นไม้ยืนต้นตายตามที่มีการตั้งข้อสังเกตหรือไม่ พร้อมภาพถ่ายแสดงรายละเอียดก่อนการออกแบบก่อสร้างและหลังดำเนินการเสร็จสิ้น

“ขอทราบว่าสำนักงานโยธาธิการได้รับอนุญาตจากหน่วยงานใดก่อนการใช้งบประมาณแผ่นดินเข้าก่อสร้าง นอกจากนั้นในกิจกรรมย่อยที่ 7 การส่งงานงวดที่ 11 ใช้งบ 509,700 บาท กรณีใช้งบติดตั้งระบบกันลิง ซ่อมแซมหลังคาอาคารวิหาร มีหนังสือมอบอำนาจจากวัดธรรมิการามในฐานะนิติบุคคลให้ดำเนินการหรือไม่ โดยได้สำเนาการร้องเรียนพร้อมเอกสารหลักฐานส่งถึงสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช.)ตรวจสอบเพิ่มเติมต่อไป”นายนิพล กล่าว

Advertisement

ด้านนายพงษ์พันธ์ วิเชียรสมุทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการครอบครองที่ดินบนเขาช่องกระจก เปิดเผยว่า จะดำเนินการสอบหาข้อมูลเพื่อรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทราบภายใน 15 วัน โดยสอบข้อมูลย้อนหลังว่าวัดธรรมิการามวรวิหาร ครอบครองที่ดินบนเขาช่องกระจกเมื่อใด มีการแจ้งเพื่อขอใช้ประโยชน์หรือไม่ และ หน่วยงานใดเป็นผู้รับผิดชอบ หลังจากคณะกรรมการชุดแรกที่ได้รับแต่งตั้งจากผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อให้สรุปภายใน 48 ชั่วโมง กรณีมีการตัดโค่นต้นศรีมหาโพธิ์ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา มีการประชุมหลายครั้งแต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ ทั้งนี้คณะกรรมการฯ จะสืบค้นข้อมูลเดิม เนื่องจากมีการตั้งวัดธรรมิการาม วันที่ 26 มิถุนายน 2465 โดยตรวจสอบเอกสารหลักฐานเดิมจากหอจดหมายเหตุแห่งชาติ รวมทั้งประสานกรมแผนที่ทหารเพื่อขอตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศแสดงการใช้ประโยชน์

นางรสริน สุภาพ หัวหน้ากลุ่มงานวิชาการ สำนักงานที่ดินจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบสารบบที่ดินพบว่าวัดธรรมิการาม ครอบครองที่ดิน 95 ไร่ 3 งาน 60 ตารางวาทั้งคณะเหนือและคณะใต้ มีที่ดินธรณีสงฆ์จำนวน 10 แปลง สำหรับพื้นที่เขาช่องกระจกไม่พบหลักฐานการขอใช้ประโยชน์ ไม่มีเอกสารสิทธิ์ครอบครองจากบุคคลหรือนิติบุคคลรายใด หลังประกาศใช้ประมวลกฎหมายที่ดินเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม   2497 แต่เจ้าอาวาสวัดได้ให้ถ้อยคำว่ามีอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดมอบพื้นที่ให้วัดดูแล ดังนั้นวัดจะต้องหาหลักฐานแสดงการใช้ประโยชน์บนเขาช่องกระจกเพื่อยืนยัน และต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเข้าใช้ประโยชน์ หากไม่มีหลักฐาน ถือว่าเขาช่องกระจกเป็นที่รกร้างว่างเปล่า เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป่าไม้ พ.ศ.2484

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image