วันที่ 21 เมษายน เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานทำเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ตั้งอยู่รอยต่อระหว่างชุมชนฝั่ง อ.พญาตองซู ประเทศเมียนมา กับ ชุมชนบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี โดยเจ้าหน้าที่ฝั่งประเทศเมียนมา ได้รีบประสานขอความช่วยเหลือมายัง นายปกรณ์ กรรณวัลลี นายอำเภอสังขละบุรี เพื่อให้นำรถดับเพลิงไปช่วยดับไฟที่กำลังลุกไหม้อย่างรุนแรงเป็นการเร่งด่วน เนื่องจากเกรงว่าไฟจะลุกลามไปไหม้บ้านเรือนประชาชนสองฟากฝั่งของสองประเทศ
จากนั้นรถดับเพลิงของ อบต.หนองลู จำนวน 1 คัน เทศบาลตำบลวังกะ จำนวน 2 คัน กรมทางหลวง จำนวน 2 คัน และเอกชนของไทย จำนวน 1 คัน ได้รุดไปที่เกิดเหตุเพื่อช่วยระงับเหตุดังกล่าวทันที ขณะที่ทางพม่าได้ใช้รถดับเพลิงของพม่า จำนวน 4 คัน รวม 10 คัน เข้าระดมฉีดน้ำเพื่อสกัดกั้นเพลิงที่กำลังโหมลุกไหม้เป็นทะเลเพลิง
จนถึงขณะนี้เวลา 08.30 น. เปลวเพลิงยังไม่สงบ แต่เจ้าหน้าที่ก็สามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ในวงจำกัดแล้ว แต่ไฟยังคงปะทุและคุกรุ่นอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากไม้และขี้เลื่อยเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงพื้นที่โดยรอบเอาไว้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากพื้นที่เกิดเหตุเป็นชุมชนขนาดใหญ่ อีกทั้งโรงงานดังกล่าวตั้งอยู่รอยต่อของชุมชนทั้งสองฝั่ง เจ้าหน้าที่เกรงว่าไฟจะปะทุและลุกลามไปไหม้บ้านเรือนประชาชนทั้งฝั่งไทยและฝั่งอำเภอพญาตองซู ประเทศเมียนมา
เบื้องต้นพบว่า โรงงานเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ถูกไฟไหม้ดังกล่าว เป็นของนักธุรกิจชาวไทยชื่อ นายพรอนันต์ โตใหญ่ หรือเสี่ยเล็ก มีเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ จากการสำรวจความเสียหายเบื้องต้นพบว่าต้นเพลิงอยู่บริเวณกองไม้ที่เตรียมไว้เพื่อจะนำมาประกอบเป็นเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ โดยโรงงานดังกล่าวได้รับความเสียหายประมาณ 90% ขณะที่บ้านเรือนของราษฎรฝั่งไทยจำนวน 3 หลัง ได้รับความเสียหายบางส่วน
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด นายปกรณ์ กรรณวัลลี นายอำเภอสังขละบุรี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเฝ้าระวังเหตุจนกว่าเพลิงจะสงบลงจนแน่ใจว่าดับสนิท เพื่อไม่ให้เพลิงเกิดปะทุและลุกลามขึ้นอีก เนื่องจากโรงงานดังกล่าวตั้งติดกับชุมชนฝั่งไทย ซึ่งมีบ้านเรือนของราษฎรไทยที่ส่วนใหญ่เป็นบ้านไม้ปลูกติดๆ กันกว่า 100 หลัง ดังนั้นหากควบคุมเพลิงไม่ได้จะสร้างความเสียหายอย่างมหาศาล
จากเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ส่วนค่าเสียหายคาดว่าไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
