รันทด! อดีตนักมวยดัง “วิหคน้อย ส.ธนิกุล” วัย 58ปี ชีวิตตกอับ อยู่เพิงสังกะสีริมถนน เพื่อนบ้านให้น้ำ-ข้าวกินประทังชีวิต (คลิป)

เมื่อวันที่ 11 กันยายน เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลสถานตรัง พร้อมผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังเพิงมุงด้วยสังกะสี ขนาดเล็ก สภาพภายในมีแค่เตียงไว้ใช้นอนเท่านั้น ไม่มีน้ำใช้ ไม่มีไฟฟ้า ปลูกติดพื้นดิน ติดถนนซอยตัน ถนนทางหลวง 404 คลองน้ำเจ็ด ในเขตเทศบาลตำบลโคกหล่อ ม.2 ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง เป็นที่อาศัยของนายพงษ์ กาญจนะ หรือ เหงียก วัย 58 ปี หรือ “วิหคน้อย ส.ธนิกุล” อดีตนักมวยดัง ค่าย ส.ธนิกุล ค้ากำปั้น บนพื้นผ้าใบมาหลายสิบปี ชกทั้งเวทีราชดำเนิน ลุมพินี

หลังเลิกอาชีพค้ากำปั้น นายพงษ์ มาประกอบอาชีพรับจ้างในบ้านเกิดเป็นกรรมกร ครอบครัวไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต แยกย้ายกับภรรยามานาน 10 ปี มีลูกชาย 1 คนก็ประกอบอาชีพรับจ้าง ในแต่ละวันอาศัยข้าวจากเพื่อนบ้านและร้านขายข้าวแกงที่นำมาให้กินเพื่อประทังชีวิตไปวันๆ เจ็บไข้ไม่สบายก็มีเพื่อนบ้านโทรเรียก มูลนิธิกุศลสถานตรัง มาช่วยนำส่งไปโรงพยาบาล ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลสถานตรัง นำน้ำดื่ม พร้อมอาหารแห้งมามอบให้เพื่อเป็นการช่วยเหลือ

นายพงษ์ กาญจนะ หรือ ”วิหคน้อย ส.ธนิกุล” กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีอาชีพชกมวยค่าย ส.ธนิกุล ของนายแคล้ว ธนิกุล ผู้กว้างขวางในกรุงเทพมหานครสมัยนั้น ชกมวยหาเลี้ยงชีพอยู่นานกว่า 10 ปี กว่า 100 ไฟล์ รุ่น 102 ปอนด์ เคยท้าชิงแชมป์มวยไทยรุ่น102 ปอนด์ กับ “สายฝน ลูกกาบู” ที่เวทีมวยหาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา แต่ครั้งนั้นพ่ายแพ้ หลังจากอำลาชีวิตนักค้ากำปั้นบนผืนผ้าใบน ก็กลับมาบ้านทำอาชีพรับจ้าง เป็นกรรมกร มีครอบครัวมีลูกชาย 1 คน และเมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมาก็เลิกกับภรรยา อยู่คนเดียว ก็กินเหล้าย้อมใจตลอดมาจนเกิดล้มป่วยบ่อยครั้ง ไม่มีอาชีพ ไม่มีรายได้ ต้องมาปลูกเพิงพักริมถนนไว้อาศัยเป็นที่หลับนอน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าวันไหนเจ้าของที่ดินดังกล่าวจะมาเอาคืน

“ก่อนหน้านี้มีบ้านที่อยู่เป็นหลักแหล่ง แต่ไปปลูกบ้านลุกล้ำในที่ดินคนอื่น เมื่อเขาต้องการเอาที่ดินคืนก็ต้องย้ายออกมา โดยมาสร้างเพิกพักบนทางเท้าในซอยตัน ถนนคลองน้ำเจ็ด ฝั่งเขตเทศบาลตำบลโคกหล่อภายในซอย และยังไม่เคยได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ เพื่อนและญาติ ๆ ก็มาเยี่ยมแค่สอบถามไม่ได้ช่วยเหลืออะไร ส่วนลูกชายก็ทำงานรับจ้างในตัวเมืองตรัง มีครอบครัวแล้ว ในแต่ละวันชาวบ้านและแม่ค้าขายข้าวแกงก็นำแกงมาให้ตลอด” นายพงษ์ กล่าว

Advertisement

ขณะที่ ชาวบ้านบริเวณนี้ก็บอกว่า น้าเหงียก ตั้งแต่เลิกกับเมีย ก็เอาแต่กินเหล้า มีเงินเท่าไหร่ก็เอาไปกินเหล้า จนล้มป่วย ไม่ได้ทำงานเพราะร่างกายซูบผอม ทำงานไม่ไหว ไม่มีงาน ไม่มีเงิน ชาวบ้านและญาติๆ ก็ให้การช่วยเหลือเท่าที่ทำได้เพื่อประทังชีวิตเท่านั้น ยังไม่พบว่ามีหน่วยงานราชการมาให้การช่วยเหลือแต่อย่างใด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image