เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 16 กันยายน นายบุญเย็น ไม้สันเทียะ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.แซร์ออ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีต้นไม้ล้มขวางทาง จึงรายงานสารวัตรกำนัน และกำนัน ตำบลแซร์ออ ให้ทราบ จากนั้นกำนันตำบลแซร์ออ จึงได้มอบหมายให้ สารวัตรกำนัน เดินทางไปตรวจสอบ ตามที่แจ้ง
เมื่อไปถึง พบไปถึงพบไม้พะยูง ขนาด 1 คนโอบ อายุไม่ต่ำกว่า 50 ปี ล้มขวางทางสัญจรไปมา จากนั้น ได้เดินเข้าตรวจสอบที่บริเวณโคนต้น พบมีรอยการเลื่อยตัดที่โคน เป็นเหตุให้ตันพะยูงล้มลง ซึ่งอยู่ในที่ทำกินของ นายสถิตย์พงษ์ งามขาว อยู่บ้านเลขที่ 61 หมู่ 1 ต.แซร์ออ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว และแจ้งให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ มี นายวิทยา วาสนารวยรุ้ง หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สก 3 (หนองน้ำใส) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ เมื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่มาถึง จึงทำการตัดกิ่งไม้ เพื่อเคลื่อนย้าย ออกที่ขวางทาง ในการสัญจร โดยที่ดินดังกล่าวเป็นของนายสถิตย์พงษ์ งามขาว อยู่บ้านเลขที่ 61 หมู่ 1 ต.แซร์ออ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว และ ปฏิเสธการตัด และสั่งห้ามเจ้าหน้าที่ตัด เคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ ด้วย
ต่อมา เวลา 19.30 น. ทางด้านนาย วิทยา วาสนารวยรุ้ง หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สก 3 (หนองน้ำใส) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้ามาตรวจสอบ และนายวิทยา กล่าวว่า ทราบว่ามีการลักลอบตัดไม้พะยูง จึงมาตรวจสอบ เนื่องจากไม้โดนลักตัด ทางพนักงานสอบสวนก็มาดู ก็รับทราบ และขอตัดทอน จะนำไม้ไปเก็บ แล้วทำบันทึกรายละเอียด ร่วมกับผู้ปกครองท้องที่เห็นว่า ทางกำนันมอบหมายให้สารวัตรกำนันมา ต้องเอาไปแจ้งความก่อน ไม้พะยูงไม่ว่าจะขึ้นอยู่ที่ใดเป็นไม้หวงห้าม ทั้งหมดการจะตัดจะโค่นต้องได้รับอนุญาตก่อน ถ้าต้นนี้มีการลักลอบตัด และที่ดินนี้เป็นที่ดินมีกรรมสิทธิ์ เจ้าของที่จะไปร้องขอคืนได้ ตอนนี้ต้องนำไปเก็บไว้ในที่ปลอดภัยก่อน ตอนนี้มืด ถ้าทิ้งไว้มันจะหาย
ต่อมา นายวิทยา ได้ชี้แจงกับนายสถิตย์พงษ์ ว่า ตามประกาศ คสช.ที่106 /2557 ลงวันที่ 21 กรกฎาคม 2557 ไม้พะยูง ไม่ว่าจะขึ้นอยู่ที่ใด ให้เป็นไม้หวงห้าม การจะทำไม้หวงห้ามต้องได้รับอนุญาตตามกฎหมายไม่ว่าจะ ขึ้นอยู่ในที่กรรมสิทธิ์ ในที่ นส.3 หรือที่ สปก. หรือที่ป่า เป็นไม้หวงห้ามทั้งหมด และวันนี้เจ้าหน้าที่โดยผม นายวิทยา ทำหน้าที่ หน.หน่วยรักษาป่าที่ สก.3 หนองน้ำใส ได้รับแจ้งจาก สารวัตรกำนัน ว่ามีไม้พะยูงโดนลักลอบตัดโค่น ขวางทางอยู่ให้เจ้าหน้าที่ เข้ามาตรวจสอบ เราก็เลยได้มาตรวจสอบ เมื่อมาตรวจสอบแล้ว เราไม่พบใครพบแต่สารวัตรกำนัน และทางตำรวจมาร่วมด้วย พบไม้ต้นนี้โดนลักลอบตัดโค่น ล้มขวางทาง ตามระเบียบเราก็ต้องตรวจยึดไม้ เพื่อไปแจ้งพนักงานสอบสวน สืบสวนหาผู้กระทำผิด เพื่อดำเนินคดีต่อไป ในส่วนของไม้ ถ้าไม้นี้ขึ้นอยู่ในที่กรรมสิทธิ์ ที่มีโฉนดหรือ นส.3 พวกนี้ หากเจ้าของที่บอกว่า ไม่ทราบไม่มีส่วนรู้เห็น ใครไม่รู้มาลักตัดต้นนี้ เจ้าของก็มีสิทธิ์ที่จะไปร้องขอไม้คืน ในส่วนคดี ทางเจ้าหน้าที่จะสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดต่อไป
