เมื่อเวลาประมาณ 06.00 น.วันที่ 17 กันยายน ร.ต.อ.กิจจา คุ้มแก้ว รองสารวัตรสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุคนถูกรถชนเสียชีวิตกลางถนนพุทธสาคร ขามุ่งหน้าเข้า อ.กระทุ่มแบน ตรงกับปากซอยพุทธสาคร 3 หมู่ที่ 11 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์จากโรงพยาบาล (รพ.) กระทุ่มแบน เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และหน่วยกู้ชีพ รพ.วิชัยเวชฯ อ้อมน้อย โดยที่เกิดเหตุพบศพชายสภาพร่างกายถูกรถชนแล้วทับจนแหลกเหลวผิดรูป มันสมองไหลออกมา จากการตรวจสอบสภาพถนนยังพบรอยลากกับกองเลือดอยู่ก่อนจุดที่จะพบศพไม่มากนัก ทราบชื่อผู้ตายต่อมาคือ นายสุริยะศักดิ์ เทียมขุนทด บ้านเลขที่ตามบัตรประชาชน 501/41 ถนนพระราม 3 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร ส่วนที่พักอาศัยปัจจุบันผู้ตายได้พักอาศัยอยู่ในห้องเช่าไม่มีเลขที่กับนางโนรี เทียมขุนทด อายุ 68 ปี ผู้เป็นแม่ ซึ่งอยู่ในซอยห่างจากที่เกิดเหตุไปประมาณ 300 เมตร โดยเมื่อผู้เป็นแม่มาเห็นศพลูกชายก็ทำใจไม่ได้ร้องไห้ตลอดเวลา
นางโนรีเปิดเผยว่า ลูกชายมีสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง จึงไม่ได้ทำงานมาหลายเดือนแล้ว ซึ่งทางแพทย์ก็บอกให้เลิกดื่มสุรา แต่ลูกชายยังแอบดื่มอยู่บ้างเล็กๆ น้อยๆ โดยปกติทุกวันตอนเช้ามืดลูกชายจะเดินข้ามถนนไปรับผ้าเอามาตัดเศษด้ายที่ห้องเช่า พอสายๆ ก็จะออกมาช่วยแม่ขายของใกล้กับห้องเช่า แต่มาเช้าวันนี้ลูกชายออกมานานแล้วยังไม่กลับเข้าห้อง ก็ไม่ได้สงสัยอะไร คิดว่าอาจจะไปนั่งแอบดื่มสุราหรือแวะคุยกับเพื่อนๆ กระทั่งมีคนมาตามว่าให้ไปดูมีคนถูกรถชน ใช่ลูกของตนหรือไม่ ซึ่งก็ใช่จริงๆ โดยไม่คิดว่าลูกชายจะมาเสียชีวิตแบบนี้
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งศพไปชันสูตรอีกครั้งที่ รพ.กระทุ่มแบน ก่อนที่จะให้ญาติมารับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
ขณะที่ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุ กล่าวว่า บริเวณดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง และมีผู้เสียชีวิตปีละหลายคน เนื่องจากตรงจุดนี้เป็นย่านชุมชน และแม้ว่าจะมีสะพานลอยคนข้าม แต่ชาวบ้านบางคนที่สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงหรือเป็นผู้สูงอายุ ก็มักจะใช้วิธีการข้ามถนนแทน โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืนและเช้ามืด ประกอบกับเป็นช่วงที่รถลงมาจากสะพานพอดี จึงทำให้หลายคนที่ใช้การข้ามถนนแทนการข้ามสะพานลอยถูกรถชนเสียชีวิต หรือรถที่ขับมาทางเดียวกันก็เกิดอุบัติเหตุชนกันอยู่บ่อยครั้งจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ซึ่งเมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วการติดตามรถที่ก่อเหตุเป็นไปได้ค่อนข้างยาก เพราะไม่มีกล้องวงจรปิดบนสะพานลอย
