เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 17 กันยายน ร.ต.อ.แซด สมพวง รอง สว.สอบสวน สภ.ปากเกร็ด รับแจ้งเหตุพบศพลอยน้ำเจ้าพระยาลอยมาติดอยู่ที่โป๊ะท่าเทียบเรือวัดกลางเกร็ด ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.เขมพัทธิ์ โพธิพิทักษ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด พ.ต.ต.ชนาธิป พวงทอง สว.สส.สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี แพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ มูลนิธิร่วมกตัญญู รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นบริเวณของท่าเทียบเรือวัดกลางเกร็ด พบศพชายนิรนามสภาพขึ้นอึดเน่าเปื่อยจนผิวหนังหลุดลุ่ย ในตัวไม่พบเอกสารและหลักฐานใดๆ โดยผู้ตายใส่กางเกงขายาวสีดำ เสื้อยึดคอกลมสีขาว สอบถามชาวบ้านในละแวกที่พบศพ ไม่มีใครรู้จักหรือคุ้นหน้ามาก่อน เนื่องจากสภาพศพไม่เหลือเค้าโครงให้จำหน้าตาได้
ต่อมา นายขิน เต๊ะอั้น อายุ 68 ปี นางมยุรี เต๊ะอั้น อายุ 58 ปี สองสามี-ภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 41/2 ม.6 ซอยวัดกู้ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้เดินทางไปที่เกิดเหตุ เพื่อดูว่าศพดังกล่าวเป็นคนที่กำลังตามหาหรือไม่ และทันทีที่เห็นศพก็ร้องไห้ด้วยความเสียใจ เนื่องจากได้จดจำเสื้อผ้าที่สวมใส่ของผู้ตายได้ว่าเป็นของลูกชายที่ชื่อนายวีรยุทธ เต๊ะอั้น อายุ 33 ปี ตำแหน่งวิทยากรชำนาญการ สำนักงานประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่หายออกจากบ้านไป และมีคนเห็นขึ้นไปบนสะพานพระราม 4 แล้วกระโดดลงแม่น้ำเจ้าพระยาฆ่าตัวตายเมื่อคืนวันที่ 30 สิงหาคม เวลาประมาณเที่ยงคืนครึ่ง ซึ่งครอบครัวได้ไปแจ้งความไว้แล้ว
นางมยุรี กล่าวว่า ไม่ทราบว่าลูกชายฆ่าตัวตายเพราะสาเหตุใด เพราะไม่เคยบ่นเรื่องกลุ้มใจให้ฟัง ทั้งเรื่องที่ทำงาน หรือเรื่องส่วนตัว อีกทั้งลูกชายก็ยังไม่มีครอบครัว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแนะนำให้นางมยุรีไปติดต่อขอหลักฐานการทำฟันจากทางโรงพยาบาล (รพ.) ปากเกร็ด ที่ผู้ตายเคยไปใช้บริการ เพื่อมายืนยันอัตลักษณ์บุคคลอีกครั้ง ส่วนศพต้องมอบให้มูลนิธิกู้ภัยนำส่งสถาบันนิติเวช เพื่อชันสูตรให้ละเอียดอีกครั้งถึงสาเหตุการเสียชีวิต และหากพบว่าเป็นบุตรชายของนายขินกับนางมยุรีจริง ก็จะได้มอบร่างให้ไปดำเนินการตามประเพณีต่อไป
