เมื่อวันที่ 18 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากอิทธิพลของพายุมังคุดทำให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่รวมทั้งชายแดนทางภาคเหนือ ทำให้มีน้ำป่าไหลมาตามลำห้วยต่างๆ ลงสู่แม่น้ำสาย ซึ่งเป็นลำน้ำที่กั้นระหว่างพรมแดนระหว่างอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย กับจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ทำให้ปริมาณน้ำได้เพิ่มระดับขึ้นอย่างรวดเร็ว และต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ทำให้เอ่อล้นทะลักเข้าท่วมร้านอาหารริมน้ำ ซึ่งเป็นที่ลุ่มติดลำน้ำ ระดับน้ำสูง 20-30 เซนติเมตร ทำให้ต้องปิดบริการ
นอกจากนี้ยังมีถนนทางลอดใต้สะพานข้ามพรมแดนทำให้ต้องปิดเส้นทางจราจรไม่ให้ใช้สัญจรไปมา ล่าสุดระดับน้ำในแม่น้ำสายได้เพิ่มขึ้นสูงเกินจุดวิกฤตที่ 4 เมตร ทำให้น้ำได้เริ่มเข้าท่วมไปถึงร้านค้าในตลาดสายลมจอย ซึ่งเป็นย่านเศรษฐกิจของพื้นที่ สูงประมาณ 5-10 เซนติเมตร ทางพ่อค้าแม่ค้ามีการเก็บสินค้าไว้บนพื้นที่สูงเพื่อความปลอดภัยไว้แล้ว ทำให้ร้านค้าบางส่วนต้องปิดให้บริการ ซึ่งทางอำเภอและเทศบาลตำบลแม่สายได้เร่งจัดกำลังเพื่อให้การช่วยเหลือชาวบ้านและผู้ประกอบการร้านค้าในเบื้องต้นแล้ว
ขณะที่ฝั่งตลาดท่าล้อ จ.ท่าขี้เหล็ก ก็ตกอยู่ในสภาพเดียวกัน โดยน้ำเข้าทะลักท่วมเป็นบริเวณกว้างจนทำให้ร้านค้าในที่ลุ่มต้องปิดและขนย้ายข้าวของ ขณะที่ร้านค้าตามพื้นที่สูงยังสามารถไปจับจ่ายซื้อสินค้าและเปิดให้ข้ามพรมแดนได้ตามปกติ นอกจากนี้มีรายงานว่าน้ำจากเทือกเขาดอยนางนอนยังไหลบ่าลงมาเอ่อท่วมบ้านจ้อง ต.โป่งผา อ.แม่สาย ภายในซอย 4 และโรงเรียนบ้านจ้อง ทำให้การสัญจรไปมาเป็นไปด้วยความยากลำบาก
ส่วนที่ อ.ป่าแดด พบว่าอ่างเก็บน้ำห้วยโป่ง บ้านร่องบงใต้ หมู่ 7 ต.ศรีโพธิ์เงิน อ.ป่าแดด น้ำในอ่างเก็บน้ำเอ่อล้นขอบอ่างหรือสปิลเวย์แล้วแต่ยังไม่ทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่ทางการเกษตร ที่ อ.เวียงเชียงรุ้ง พบว่าน้ำป่าได้ไหลทะลักเข้าท่วมถนนภายในหมู่บ้านตาดควัน หมู่ 15 ต.ป่าซาง อ.เวียงเชียงรุ้ง จนขาดประมาณ 10 เมตร โดยที่อำเภอเทิง จากการสำรวจของเจ้าหน้าที่หลังเกิดน้ำป่าไหลหลาก มีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบใน 2 ตำบล 8 หมู่บ้าน ประกอบด้วย ตำบลตับเต่า 7หมู่บ้าน และตำบลหงาว 1 หมู่บ้าน ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ทางการเกษตรที่ถูกน้ำท่วม
ขณะที่ทางด้านปศุสัตว์พบว่ามีโค กระบือ ถูกน้ำป่าพัดสูญหายจำนวน 3 ตัว โดยบ้านเรือนประชาชนไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด ซึ่งหลังเกิดเหตุ นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ได้สั่งการให้แต่ละพื้นที่เร่งให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบเหตุและสำรวจความเสียหายอย่างละเอียดเพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป
