จากกรณีฝนตกหนักในพื้นที่อำเภอสบเมย จ.แม่ฮ่องสอน เมื่อ 17 กันยายน เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ผู้คนหลบหนีภัยจากการสู้รบบ้านแม่ละอูน ม.1 ต.สบเมย อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ดินภูเขาสไลด์ถล่มทับใส่บ้านเรือน ได้รับบาดเจ็บ 11 คน สูญหาย 7 คน และเสียชีวิต 1 ราย บ้านเรือนได้รับความเสียหายทั้งหลัง 7 หลังคาเรือน เสียหายบางส่วน 6 หลังคาเรือน ภายหลังเกิดเหตุ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 3 ให้นำกำลังทหารร่วมกับฝ่ายปกครองจังหวัดแม่ฮ่องสอน เข้าให้การช่วยเหลือเร่งด่วน
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 18 กันยายน นายสาคร รุ่งเรือง รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พ.อ.กิตติพงศ์ ชื่นใจชน รองผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พ.อ.พงศธร บุญฟู ผู้บังคับหน่วยพัฒนาเคลื่อนที่ 36 พ.อ.สมเจตตะณ์ ภักดีบรรณดิษฐ์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดแม่ฮ่องสอน พ.อ.ณรงค์ฤทธิ ปาณิกบุตร ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 17 พ.อ.วุฒิ ปฐมเรืองกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 นายเรืองฤทธิ์ ผลดี หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายผอบ บินสะอาด นายอำเภอสบเมย , และนายคมสัน สุวรรณอำภา ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธาณภัยเขต 10 ลำปาง ลงพื้นที่โดยเฮลิคอปเตอร์ และทางรถยนต์ พร้อมกับส่งกำลังทหาร หน่วยกู้ภัยจากศูนย์บรรเทาสาธารณภัย นพค.36 , ฉก.ร.17 , ทพ.36 ฝ่ายปกครองอำเภอสบเมย , หน่วยกู้ภัยจาก ปภ.แม่ฮ่องสอน , ปภ.เขต 10 ลำปาง , ปภ.เขต 15 เชียงราย กว่า 100 นาย เข้าพื้นที่พักพิงผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบบ้านแม่ละอูน อ.สบเมย กระจายกำลังเข้าค้นหาผู้ที่สูญหายทั้ง 7 คน เป็นวันที่ 2
โดยกำลังทหารและหน่วยกู้ภัย ชาวบ้าน และองค์กรเอกชนที่ดูแลศูนย์พักพิงกว่า 100 นาย ได้เข้าค้นหาบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งมีดินโคลน ซากกิ่งไม้ ต้นไม้ และก้อนหินจากภูเขาถูกน้ำซัดถล่มลงมาทับบ้านเรือนที่ปลูกอยู่ตามเนินไหล่เขาและริมแม่น้ำยวม โดยเก็บกิ่งไม้ เศษซากอาคารบ้านเรือน และขนย้ายสิ่งของ บ้านเรือนที่ถูกน้ำป่า และดินโคลนพัดถล่มพังเสียหาย พร้อมทั้งนำเรือยนต์หางยาว ออกค้นหาไปตามแม่น้ำยวม ระยะทางกว่า 10 กม. และให้ประชาชนผู้อพยพที่มีบ้านเรือนอยู่ริมแม่น้ำให้ช่วยค้นหา เนื่องจากผู้สูญหายส่วนใหญ่จะเป็นเด็กอายุระหว่าง 3-12 ปี
นายสาครกล่าวว่า การค้นหาจะต้องดำเนินการต่อไป จนกว่าจะพบตัวผู้สูญหายทั้ง 7 คน ให้ตั้งศูนย์ช่วยเหลือค้นหาภายในศูนย์พักพิงบ้านแม่ละอูน หน่วยกู้ภัยส่วนใหญ่จะเป็นทหารจากศูนย์กู้ภัย นพค.36 , ฉก.ร.17 และทหารพรานที่ 36 สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดส่งทีมกู้ภัย รถไฟส่องสว่างจากนอกพื้นที่เข้ามาช่วยเหลือ แต่เส้นทางเข้าจากอำเภอสบเมย ไปยังศูนย์อพยพแม่ละอูน เข้าออกลำบาก บางจุดระหว่างทางมีต้นไม้ล้มขวางถนน ต้องใช้เวลาเดินทางเกือบ 4 ชั่วโมง จึงจะเข้าไปถึง ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับบ้านเรือนสิ่งปลูกสร้างภายในศูนย์พักพิง 120 ครัวเรือน 684 คน แต่จุดที่เกิดเหตุเสียหาย 7 หลัง เสียหายบางส่วน 6 หลัง ไร้ที่อยู่อาศัย 49 คน ให้ไปพักอาศัยอยู่กับญาติภายในศูนย์พักพิงเป็นการชั่วคราวไปก่อน
สำหรับผู้เสียชีวิต 1 คน คือ ด.ญ.น่ออิสเลิฟวาโซ อายุ 2 ปี นำศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ที่สูญหายทั้ง 7 คน ได้แก่ ด.ญ.พอเหน่มู อายุ 10 ปี ด.ญ.ทูลอยวา อายุ 12 ปี ด.ญ.พอเส่คือ อายุ 12 ปี นางลอยบือ อายุ 50 ปี ด.ช.ทูซี อายุ 11 ปี ด.ช.แอคริสเซ อายุ 3 ปี นายแห่เกลอทู อายุ 28 ปี กำลังค้นหา
พ.อ. กิตติพงศ์ ชื่นใจชน รองผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร กำลังทหารหลายหน่วยในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ระดมเข้ามาให้การช่วยเหลือค้นหาร่วมกับทางฝ่ายปกครองจังหวัด และแม่ทัพภาคที่ 3 ได้ส่งทีมแพทย์ พยาบาลจากโรงพยาบาลค่ายกาวิละ เข้ามาตรวจรักษาดูแลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและสภาพจิตของประชาชนภายในศูนย์อพยพแล้ว ซึ่งผู้บาดเจ็บมีทั้งหมด 11 คน รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลศูนย์พักพิงแม่ละอูน 8 คน และส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลแม่สะเรียง 3 คน ซึ่งอาการส่วนใหญ่จะถูกกิ่งไม้ เศษหินหล่นลงมาใส่ บางคนวิ่งหนีน้ำ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
ในการฟื้นฟู ทางจังหวัดจะให้การสนับสนุน โดยทางองค์กรเอกชนที่ดูแลศูนย์พักพิงจะเข้ามาดำเนินการ แต่คงให้สร้างอยู่ที่เดิมไม่ได้ เพราะพื้นที่เป็นไหลเขาและติดริมน้ำเสี่ยงต่อดินโคลนถล่มลงมา จะจัดหาพื้นที่แห่งใหม่ที่ไม่เสี่ยงและปลอดภัยมากกว่าเดิม
