ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา ที่บ้านเลขที่ 27/729 หมู่บ้านดิเออบาร์โน่ อยู่สบาย 11 หมู่ที่ 8 ต.หนองบัวศาลา อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา นางสาวศิรประภา แบบกลาง อายุ 28 ปี เจ้าของบ้านอาชีพเป็นครูศูนย์การเรียนชุมชน สังกัด กศน.อำเภอเมืองนครราชสีมา อยู่ในอาการตกใจหลังกลับจากทำงานและเข้าไปในบ้านพบว่าบริเวณห้องนอนชั้นสองของบ้านถูกคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คน รื้อค้นทรัพย์สินและมีทรัพย์สินหายไปประกอบด้วย ตู้เซฟ จำนวน 1 ตู้ ภายในมีทรัพย์สินประกอบด้วย สร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท 1 เส้น ,จี้ทองคำหนัก 1 บาท 1 จี้ ,สร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึง 2 เส้น ,จี้พระเลี่ยมทอง 5 องค์ ,เงินสด 20,000 บาท ,แหวนเพชร 1 วง และแหวนพลอยอีก 2 วง นอกจากนี้ภายในตู้เสื้อผ้ายังมีเงินสดที่เก็บไว้ในกระเป๋าเจมส์บอร์นอีก 25,000 บาท และสร้อยคอทองคำหนัก 50 สตางค์และแหวนทองหนัก 1 สลึง อีก 1 วง ก็หายไปด้วย โดยคนร้ายรื้อค้นทรัพย์สินแล้วพยายามเก็บไว้ให้อยู่ในสภาพเดิม แล้วช่วยกันยกตู้เซฟออกจากบ้านไปแล้วล็อกประตูบ้านไว้ในสภาพเดิม โดยมูลค่าของทรัพย์สินที่หายไปรวมราคาประมาณ 250,000 บาท หลังเกิดเหตุนางสาวศิรประภาได้แจ้งให้ ร.ต.อ.อดิศักดิ์ ศรีสังข์สุวรรณ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐานเบื้องต้น
นางสาวศิรประภาเจ้าของบ้านเล่าว่า ช่วงเช้าของวันที่ 20 กันยายน ก่อนออกไปทำงานตนเองก็ได้ตรวจตราดูทรัพย์สินภายในบ้านและล็อกบ้านก่อนไปทำงานตามปกติ โดยไม่ได้เอะใจอะไรเพราะภายในหมู่บ้านจะมี รปภ.คอยตรวจตราเป็นระยะจึงมั่นใจว่าไม่น่าจะมีเหตุร้ายอะไรเกิดขึ้น แต่ช่วงค่ำได้กลับมาบ้านก็ใช้กุญแจเปิดเข้าบ้านตามปกติ แต่พอเปิดตู้เสื้อผ้าก็ต้องตกใจเพราะกระเป๋าเจมส์บร์อนอ้าอยู่และเงินในกระเป๋าก็หายไป เมื่อไปดูตู้เซฟก็พบว่าตู้เซฟหายไปด้วย จากการตรวจสภาพบ้านพบว่าคนร้ายน่าจะไม่ต่ำกว่า 2 คน ได้งัดหน้าต่างครัวหลังบ้านเข้ามาโจรกรรมทรัพย์สินแล้วพยายามจะเก็บข้าวของไว้ให้อยู่ในสภาพเดิมและล๊อกบ้านไว้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งทรัพย์สินที่ตนเองเก็บไว้เป็นมรดกที่ตามอบให้ก่อนจะเสียชีวิตและเป็นน้ำพักน้ำแรงที่ตนเองทำงานและขายผลไม้แล้วเก็บสะสมเอาไว้ตลอดมา ทั้งนี้ตนมั่นใจและสงสัยว่าจะเป็นฝีมือของคนร้ายที่รู้ความเคลื่อนไหวของตนเป็นอย่างดีและเคยเข้ามาซ่อมบ้านให้ตนเองด้วย ซึ่งตนได้ให้ปากคำกับตำรวจไปเบื้องต้นแล้วนางสาวศิรประภากล่าว
