สังหารโหด “เล็ก อรดา” เสี่ยรับเหมาชื่อดังเมืองสุพรรณบุรี เจ้าของหมู่บ้านอรดาหมู่จัดสรรชื่อดัง ญาติพบกลายเป็นศพในห้องนอน ถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมทั้งตีทั้งแทงที่หัว นอนจมกองเลือดตายคาห้องนอนภายในบริษัทรับเหมา พบสิ่งของมีค่าหายเกลี้ยงห้อง สงสัยไอ้โซ คนงานพม่าที่เพิ่งรับเข้ามาทำงานใหม่ เป็นมือสังหาร หลังพบศพหายตัวไปพร้อมทรัพย์สิ้นก้อนโต
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 20 กันยายน ร.ต.อ.ประเทือง น้ำดอกไม้ รอง สว.( สอบสวน) สภ.เมือง จ.สุพรรณบุรี รับแจ้งเหตุมีคนเสียชีวิตภายในบริษัท ชยุตา 9999 จำกัด เลขที่ 122 หมู่ 1 ต.โพธิ์พระยา อ.เมืองสุพรรณบุรี จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.อภิชิต สุรพินิจ รอง ผบก. พ.ต.อ.วริทธิ์พงษ์ ทัฬหวรงค์ ผกก.กก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.อ.กุญช์ภัสร์ หาญสมบูรณ์ เสธ กกล.รส.มทบ.ที่ 17 พ.ต.ท.ตะวัน วัฒนรังสรรค์ สวป. ,พ.ต.ท.เรวัฏ นูมหันต์ สว.สส.สภ.เมือง หน่วยภู้ภัยเสมอกันสุพรรณบุรี และทีมแพทย์ รพ.ศูนย์เจ้าพระยายมราช รุดไปที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่กว้างประมาณ 3 ไร่ ซึ่งเปิดเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ด้านข้างเป็นห้องแถวสำหรับเป็นบ้านพักคนงาน ในบริเวณเดียวกันด้านในสุดที่ติดอยู่กับริมแม่น้ำสุพรรณบุรี มีบ้านไม้ทรงไทยแบบน็อกดาวน์ ภายในห้องนอนด้านในของบ้าน บนเตียงนอนพบศพนายณัฐปพนวิช วงค์ธนจีรนาถ อายุ 49 ปี เจ้าของบ้านนอนเสียชีวิตอยู่ในสภาพคว่ำหน้า อยู่ในสภาพนุ่งกางเกงสีขาวไม่สวมเสื้อ นอนคว่ำหน้าจมกองเลือด มีเลือดกระจัดกระจายอยู่เต็มเตียง และผนังห้อง ตรวจสอบสภาพศพพบบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคมเข้าที่ศีรษะ หลัง 1 รู ลำคอ 1 กกหู 1 รวมทั้งหมด 3 แผล ตรวจสอบพบภายในบริเวณห้องนอนมีการถูกรื้อค้นสิ่งของกระจุยกระจาย โดยตรวจสอบภายชักโครกห้องน้ำพบโทรศัพท์ของผู้ตายตกอยู่ 2 เครื่อง เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บหลักฐานลายนิ้วมือ รวมถึงดีเอ็นเอในที่เกิดเหตุเพื่อนำไปตรวจสอบ
สอบสวนนายรณัฐ สุนทรวิภาต อายุ 19 ปี บุตรบุญธรรมของผู้ตาย ซึ่งเป็นผู้พบศพคนแรก ให้การว่า ปกติพ่อตนจะตื่นเช้าและมากินกาแฟที่หน้าออฟฟิศซึ่งอยู่ตรงข้ามกับบ้านที่พ่อนอน แต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเวลาประมาณ 10.00 น. ตนจึงได้เดินไปเพื่อจะเรียกพ่อมากินอาหารเช้า พบว่าประดูห้องล็อกด้วยกุญแจจากด้านนอกซึ่งผิดปกติ ตนจึงวิ่งไปตามนางณัฐณิชาภรณ์ ซึ่งเป็นพี่สาวของพ่อ มาดูพร้อมนำกุญแจสำรองมาไขเข้าไปดู เมื่อเลื่อนประดูกระจกห้องด้านในออกก็ถึงกับตกใจ เมื่อเห็นพ่อตนนอนเป็นศพตายจมกองเลือดอยู่จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว
ด้านนางณัฐณิชาภรณ์ วงค์ธนจีรนาถ อายุ 54 ปี พี่สาวของผูู้ตาย เผยว่าเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (19 ก.ย.) น้องชายตนได้ขับรถกลับมาบ้านหลังจากไปตรวจงานก่อสร้าง เตรียมสร้างร้านอาหารที่ ต.พิหารแดง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี โดยมากับคนงานชาวพม่า 3 คน จากนั้นผู้ตายก็ได้มานั่งกินข้าวเย็นพร้อมกับคนงานทั้ง 3 คน บริเวณหน้าบริษัทตรงที่จอดรถ ฝั่งตรงข้ามกับบ้านของผู้ตาย จนกระทั่งเวลาประมาณ 20.00 น.คนงานก็ได้แยกย้ายกันกลับไปบ้านพักคนงานที่แคมป์ โดยมีนายโซ คนงานชาวพม่า อายุประมาณ 22 ปี ซึ่งเพิ่มมาทำงานได้เพียงวันเดียว ขอเข้าไปพักที่บ้านของน้องชายตนด้วย จากนั้นก็ได้หิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าเข้าไปที่บ้านพักน้องชาย ตนก็ไม่ได้สงสัยอะไร คิดว่าคนงานใหม่ที่พักที่แคมป์อาจจะไม่สะดวก จนกระทั่งเช้าวันนี้มาพบน้องชายถูกฆ่าตายดังกล่าว ส่วนคนงานพม่าก็หนีหายไปด้วย
นางณัฐณิชาภรณ์เผยต่อว่า จากการตรวจสอบภายในบ้านพักของน้องชายตนพบว่าห้องถูกรื้อกระจุยกระจาย มีสิ่งของมีค่าหลายอย่างหายไป เช่น สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท พร้อมพระเลี่ยมทองอีก 3 องค์ เลสข้อมือทองคำหนัก 3 บาท แหวนเพชร 2 วง นาฬิกายี่ห้อดัง และกระเป๋าเงินซึ่งมีเงินสดอยู่ประมาณ 2 หมื่นกว่าบาท ปืนพกสั้น รวมถึงสิ่งของมีค่าหลายรายการภายในห้องหายไปด้วย คิดรวมเป็นมูลค่าหลายแสนบาท ตนเชื่อว่าคนที่สังหารน้องชายตนอย่างโหดเหี้ยมคือนายโซ คนงานชาวพม่าอย่างแน่นอน นายโซเป็นคนที่อยู่กับน้องตนเป็นคนสุดท้าย และหลังเกิดเหตุก็ได้ให้คนงานออกตามหาก็ไม่พบตัวนายโซแต่อย่างใด
ด้าน พ.ต.อ.อภิชิต สุรพินิช รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบว่าฆาตกรลงมืออย่างเหี้ยมโหดทั้งทุบหัว และใช้ของแหลมแทงหัวจนเป็นแผลลึกกว่า 5 ซม. ขณะนี้ได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด สอบพยานแวดล้อม รวมถึงได้เช็กจากกล้องวงจรปิดภายในบ้านและบริเวณทางเข้าบริษัท สันนิษฐานเบื้องต้นว่า คนที่ลงมือสังหารผู้ตายน่าจะเป็นนายโซ แรงงานพม่าที่เพิ่งเข้ามาทำงานในบริษัทของผู้ตายได้เพียงวันเดียว จากการสอบปากคำเพื่อแรงงานพม่าด้วยกันทราบว่านายโซ เป็นแรงงานพม่าที่เดินทางมาจากบ้านอีต่อง อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี มาทำงานในบริษัทของผู้ตายจากการพามาของกลุ่มเพื่อนชาวพม่าที่รู้จักกัน โดยผู้ตายเพิ่งไปรับมาจาก จ.กาญจนบุรีเมื่อวานนี้ ซึ่งขณะนี้ได้ให้ชุดสืบสวน 3 ชุด ลงพื้นที่ เพื่อติดตามตัวนายโซให้ได้ก่อนในเบื้องต้น ส่วนสาเหตุของการสังหารก็น่าจะมาจากการฆ่าเพื่อชิงทรัพย์ เนื่องจากผู้ตายใส่เครื่องประดับและสิ่งของมีค่าติดตัวเยอะ อาศัยช่วงดึกที่ญาติของผู้ตายและคนงานนอนหมดแล้วทำการฆ่าและชิงทรัพย์แล้วหลบหนีไป คาดว่าไม่เกิน 2-3 วันนี้น่าจะติดตามจับกุมนายโซมาได้
ส่วนประวัติของนายณัฐปพนวิช วงค์ธนจีรนาถ หรือคนในวงการสังคมเมืองสุพรรณบุรีรู้จักกันในนาม “เล็ก อรดา” ประกอบอาชีพรับเหมาก่อสร้าง จนประสบความสำเร็จมีฐานะร่ำรวย ก่อนจะหันมาทำบ้านจัดสรรขายชื่อหมู่บ้านอรดา จนประสบความสำเร็จบ้านขายได้หมดได้กำไรหลายสิบบ้าน ทำให้ฐานะอยู่ในระดับเศรษฐีน้อย มาระยะหลังเศรษฐกิจไม่ค่อยดีจึงได้กันมาประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างอย่างเดียว ซึ่งปัจจุบันรับเหมาก่อสร้างลงงานทั้งสร้างตึกแถว สร้างบ้านอยู่ในพื้นที่เมืองสุพรรณบุรีหลายแห่ง พร้อมกับทำธุรกิจการสวนเกษตรอินทรีย์ และทำสวนปลูกมะม่วง ในเขตพื้นที่ ต.พิหารแดง อ.เมือง ควบคู่ไปกับการรับเหมาก่อสร้างด้วย และล่าสุดกำลังปรับพื้นที่บริเวณสวนเกษตร เตรียมทำการก่อสร้างร้านอาหารขนาดใหญ่ ซึ่งขณะนี้ได้ก่อสร้างไปแล้วเกือบ 50 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็มาถูกสังหารโหดเสียก่อน
ล่าสุด พ.ต.อ.อภิชิต สุรพินิจ รอง ผบก. พ.ต.อ.วริทธิ์พงษ์ ทัฬหวรงค์ ผกก.กก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ทั่วทั้งจังหวัดสุพรรณบุรี และ จ.กาญจนบุรี พร้อมประสานงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองกาญจนบุรี ให้ตรวจสอบค้นหาตัว นายโซ ชาวพม่ารายนี้มาดำเนินคดีให้ได้ พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่คิดว่าจะหลบหนี ส่วนที่บ้านของผู้ตายนั้นบรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงา ด้านญาติผู้เสียชีวิตกล่าวว่า อยากให้เจ้าหน้าที่เร่งจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ไวที่สุด เพราะว่าชาวพม่าคนนี้มีจิตใจเหี้ยมโหดมาก เนื่องจากทางครอบครัวของตนได้รับมาอยู่เพื่อที่จะให้มาทำงาน แต่กลับมาฆ่าญาติของตนเพื่อชิงทรัพย์ ส่วนศพของผู้ตายจะนำมาบำเพ็ญกุศลที่วัดพร้าว และเวลา 15.00 น. จะมีการรดน้ำศพ
ส่วนที่บ้านของผู้เสียชีวิต บรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงา ญาติได้ทำความสะอาดห้อง และคราบเลือด ภายในห้องนอน โดยพี่สาวผู้ตายได้เดินทางไปรับศพที่รพ.ศูนย์เจ้าพระยายมราช เพื่อนำมาบำเพ็ญกุศลที่วัดพร้าว
โดยนางณัฐณิชากรณ์ วงค์ธนจีรนาถ อายุ 54 ปี กล่าวพร้อมทั้งน้ำตาว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ขึ้นว่าคนงานที่น้องชายของตนรับเข้าทำงานจะมาลงมือก่อเหตุอย่างเหี้ยมโหดแบบนี้ เห็นสภาพศพแล้วยังทำใจไม่ได้ ปกติผู้ตายเป็นคนใจดี ดูแลคนงานอย่างดี แบะรักลูกน้อง ไม่ค่อยมีเหตุวิวาทหรือมีปัญหาในการทำงาน ซึ่งชนวนการก่อเหตุครั้งนี้ตนว่าน่าจะมาจากการต้องการชิงทรัพย์ อย่างไรก็ดี วอนขอให้ตำรวจได้เร่งจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาให้ได้โดยเร็ว
ล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กองกำกับการสืบสวน ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.วริทธิ์พงษ์ ทัฬหวรงค์ ผกก.สืบสวน กก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี ได้เรียกประชุมทีมชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.สพ เพื่อเร่งระดมกำลังติดตามตัวผู้ก่อเหตุ เบื้องต้นคาดว่าเป็นคนงานชาวพม่า ชื่อ นายโซ อายุ 22ปี ซึ่งคาดว่ายังหลบหนีอยู่ในพื้นที่ สุพรรณบุรี และจังหวัดใกล้เคียง ทีมชุดสืบสวนกระจายกำลังเต็มพื้นที่ 5ชุด ล่าสุดมีพยานหลักฐานแน่น พร้อมเตรียมออกหมายจับแล้ว
