เมื่อวันที่ 22 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับร้องเรียนจากนายวิชาญ แซ่อึ้ง อายุ 86 ปี ซึ่งอยู่บ้านชั้นเดียวเลขที่ 287 บนที่ดิน 2 ไร่ มีต้นไม้ขึ้นจนหนาทึบ ติดกับสถาบันพลศึกษาอุดรธานี ถ.ประชารักษา ทน.อุดรธานี ว่า ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาขณะที่เข้ารับการผ่าตัดมะเร็งต่อมลูกหมาก และพักรักษาตัว มีคนร้ายมาโจรกรรมทรัพย์สินพระพุทธรูป พระเครื่อง และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ 4 ครั้งติดต่อกัน โดยโทรแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ แต่ยังติดตามจับกุมคนร้ายไม่ได้
ทั้งนี้ นายวิชาญ มีสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง ต้องใช้รถเข็นช่วยพยุงตัว เปิดเผยว่า ช่วงหนุ่มๆ มีอาชีพขับรถส่งของ เดินทางไปตามจังหวัดต่างๆ จึงมีโอกาสสะสมพระพุทธรูป พระเครื่อง แต่ละองค์มีอายุมากกว่า 50 ปี ตอนนี้ต้องอยู่ที่บ้านหลังนี้มากว่า 13 ปีแล้ว มีหลานส่งคนมาดูแล นำข้าวปลาอาหารมาส่งจนวันที่ 12 ก.ย. ที่ผ่านมา มีคนแอบเข้ามาขโมยพระพุทธรูป และพระเครื่องที่สะสมได้ ได้ยินแต่เสียงทำอะไรไม่ได้ มั่นใจว่าคนร้ายก็คือคนงาน ที่ถูกส่งมาดูแลตนเมื่อปีก่อน ซึ่งได้บอกตำรวจไปแล้ว ก็ยังจับไม่ได้
นายวิชาญ กล่าวว่า ตอนนี้ได้ขอให้หลานมาอยู่เป็นเพื่อน อยากจะออกไปตามคดีกับตำรวจ ก็ไปไม่ได้ เพราะร่างกายไม่เอื้ออำนวย เมื่อไม่เห็นอะไรคืบหน้าจึงร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ทางตำรวจเร่งรัดจับกุมคนร้ายให้ได้ เพราะมั่นใจว่าเป็นคนที่เคยดูแลตนมาก่อน ตนเสียดายพระเก่าแก่ที่เก็บสะสมมาทั้งชีวิต ที่เป็นสมบัติสุดท้ายในชีวิต เพราะที่ดินแปลงนี้ก็ยกให้ลูกชายคนเดียวไป 13 ปีแล้ว แต่หลังจากยกให้ไป ก็ไม่เคยมาดูแลเลย
“13 ปีที่ผ่านมา ลูกชายไม่เคยดูแล ไม่เคยให้เงินผม แม้สลึงเดียวก็ไม่เคยได้ ที่ดินผืนนี้ 10 กว่าปีก่อนมีนักธุรกิจในอุดรมาขอซื้อ 40 ล้านบาท แต่ผมไม่ขายบอกจะเก็บไว้ให้ลูกชาย แต่หลังจากโอนที่ดินให้ลูกชาย เขาเอาไปจำนองธนาคารกู้เงิน 5 ล้านบาท ไปลงทุนทำธุรกิจในกรุงเทพฯ อยากจะให้ทนายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ มาช่วยผมๆ อยากเอาที่ดินคืน เพราะเขาไม่เคยเลี้ยงดูพ่อ ทอดทิ้งบุพการี ถ้าได้คืนแล้วมีคนมาขอซื้อ จะขายเอาเงินมาเก็บไว้บางส่วน เพื่อไปอยู่บ้านพักคนชรา เงินที่เหลือจะไปทำบุญ และบริจาคให้มูลนิธิการกุศลต่าง ๆ” นายวิชาญกล่าว
