เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 24 กันยายน เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองอำเภอเมืองมหาสารคาม สนธิกำลังเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 39 หมู่ 10 บ้านดงเค็ง ต.ท่าสองคอน อ.เมือง จ.มหาสารคาม ภายหลังสืบทราบว่าที่บ้านหลังดังกล่าวมีการลักลอบแปรรูปไม้พะยูง โดยเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ร่วมขบวนการได้จำนวน 11 คน ไม้พะยูงขนาดต่าง ๆ รวม 28 ท่อน เลื่อยยนต์ 2 เครื่อง และรถยนต์ 3 คัน โดยที่บ้านหลังดังกล่าวมีนายอัสวิน ภาแก้ว เป็นเจ้าของบ้าน ซึ่งขณะเกิดเหตุนายอัศวินไม่อยู่บ้าน
จากนั้นเวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ได้นำรถบรรทุก 6 ล้อ มาขนย้ายไม้พะยูงของกลางจำนวน 28 ท่อน และนำตัวผู้ที่อยู่ในบ้านขณะที่เจ้าหน้าที่ตรวจค้นรวม 11 คน มาสอบสวนต่อที่ กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม ประกอบด้วย นายทองสุข พวกไธสง อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28/3 ต.คลองขาม อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์, นายอุเทน โพธิ์กิ่ง อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 104/1 ต.เซิม อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย, นายอำพล เลไธสง อายุ22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 173/8 ต.เซิม อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย, นายเกษม แข็งฤทธิ์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49/4 ต.นาโพธิ์ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย, นายบุญหลาย บุญมาลา อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 140/4 ต.นาโพธิ์ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย, นายสมพร อุมมะชะ อายุ27 อยู่บ้านเลขที่ 80/9 หมู่3 ต.แกลง อ.เมืองระยอง จ.ระยอง, นายประสิทธิ์ บุตรวงษ์ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50/7 ต.เซิม อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย, นางประกาย บำรุงภักดี อยู่บ้านเลขที่148/15 ต.บ้านดุง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี, นางมณีนุช มณีวรรณ อยู่บ้านเลขที่ 146/8 ต.เซิม อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย, นางวาสนา อุดมศักดิ์ อยู่บ้านเลขที่ 4 ต.เซิม อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย และนายรัตน์ เลไธสง อยู่บ้านเลขที่ 199/15 ต.บ้านดุง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี
ร.อ.ณัฐพงษ์ หงษ์โม่ หัวหน้าชุดเคลื่อนที่เร็ว กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า เบื้องต้นจากการสอบถามผู้ต้องหาทราบว่า ผู้ต้องหาส่วนใหญ่เดินทางมาจากจังหวัดหนองคาย เพื่อมารับจ้างแปรรูปไม้พะยูง ซึ่งก่อนหน้านั้นมีชุดตัดไม้ เข้ามาลักลอบตัดจากพื้นที่ ต.แก่งเลิงจาน 6 ต้น และตำบลหนองปลิง 1 ต้น รวม 7 ต้น โดยได้นำไม้ทั้งหมดมาพักไว้ที่บ้านหลังดังกล่าว ซึ่งมี นายรัตน์ เลไธสง เป็นนายทุนซื้อไม้มาในราคากว่า 90,000 บาท หากแปรรูปไม้เสร็จแล้วก็จะขนย้ายออกนอกพื้นที่ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยเจ้าหน้าที่จะได้ลงบันทึกจับกุม และรอเจ้าหน้าที่ป่าไม้มาตรวจวัดปริมาตรไม้พะยูงทั้งหมดว่าได้กี่ลูกบาศก์เมตร ก่อนจะนำตัวผู้ต้องทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
