จากกรณีต้นศรีมหาโพธิ์ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงปลูก เมื่อคราวเสด็จพระราชดำเนินขึ้นเขาช่องกระจก ในเขตอภัยทานของวัดธรรมิการามวรวิหาร ตรงข้ามศาลาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ วันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ.2501 ถูกเจ้าอาวาสวัดธรรมิการามวรวิหารตัดโค่นถอนรากถอนโคน ต่อมาผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ทำหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษถึงสำนักพระราชวัง พร้อมตั้งกรรมการสอบหาข้อเท็จจริงเพื่อหาหน่วยงานที่รับผิดชอบพื้นที่เขาช่องกระจก
เมื่อวันที่ 24 กันยายน นายพงษ์พันธ์ วิเชียรสมุทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงหาหน่วยงานรับผิดชอบพื้นที่เขาช่องกระจก เปิดเผยว่า หลังจากเสนอตั้งปลัดจังหวัดทำหน้าที่กรรมการเพิ่มเติม และเสนอขอขยายเวลาสอบสวนอีก 10 วัน จะมีการประชุมอีกครั้งเพื่อให้มีข้อสรุปภายในสัปดาห์นี้ จากนั้นจะนำเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาว่าพื้นที่เขาช่องกระจกเป็นของหน่วยงานใด ก่อนเริ่มกระบวนการทางกฎหมายกับผู้ตัดต้นศรีมหาโพธิ์ทรงปลูกและผู้บุกรุกพื้นที่ของทางราชการ หลังจากวัดธรรมิการามไม่มีหลักฐานยืนยันการขอใช้ประโยชน์
“แต่เนื่องจากวัดมีประวัติการก่อสร้างตั้งแต่ปี 2465 มีการสร้างรอยพระพุทธบาทจำลอง คณะกรรมการจึงสืบค้นข้อมูลจากหอจดหมายเหตุแห่งชาติ และสอบถามพยานบุคคล เพื่อหาข้อมูลประกอบหลักฐานการใช้ประโยชน์ของวัดบนพื้นที่ภูเขาก่อนมี พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 และก่อนประกาศใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน 2497 และหากหน่วยงานระดับจังหวัดไม่สามารถหาข้อยุติได้ คาดว่าผู้ว่าราชการจังหวัดจะเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาดำเนินการวินิจฉัยต่อไป และขอเรียนยืนยันอีกครั้งว่าคณะกรรมการชุดนี้ไม่มีหน้าที่สอบสวนหาสาเหตุการตัดโค่นต้นศรีมหาโพธิ์ทรงปลูกซึ่งยอมรับว่าอยู่ในความสนใจของประชาชนเป็นอย่างมาก” นายพงษ์พันธ์กล่าว
นายวิรัช หิรัญญะเวช อายุ 76 ปี อดีตหัวหน้าสำนักงานคลัง จ.ประจวบคีรีขันธ์ อยู่บ้านเลขที่ 27/1 ถนนดอนเหียง เขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า หลายฝ่ายแสดงความแปลกใจที่การดำเนินการกับผู้ตัดโค่นต้นศรีมหาโพธิ์ทรงปลูกเป็นไปด้วยความล่าช้า ในลักษณะการประวิงเวลา ทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญที่ประชาชนในจังหวัดให้ความสนใจ นอกจากนั้นกรณีมีการแสวงหาข้อมูลเพื่อหาหน่วยงานที่รับผิดชอบเขาช่องกระจกหลังต้นศรีมหาโพธิ์ถูกตัดโค่นพบว่ายังไม่มีความชัดเจน
“เมื่อปี 2495 ขณะนั้นมีอายุ 9 ขวบ บิดาเป็นชาวกรุงเทพฯได้พาเดินขึ้นไปเที่ยวบนเขาช่องกระจกเพื่อชมวิวมุมสูงของเมืองประจวบฯ โดยไม่มีการก่อสร้างบันได และทราบว่าเพิ่งสร้างเมื่อปี 2497 สำหรับการเดินขึ้นภูเขาต้องเดินตามเส้นทางธรรมชาติ เมื่อถึงยอดเขายืนยันว่าเป็นพื้นที่รกร้าง ไม่พบว่ามีสิ่งปลูกสร้างใดๆ คุณพ่อไม่ได้พาไปกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผมพร้อมให้ข้อมูลกับผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ให้มีความชัดเจน” นายวิรัชกล่าว และว่า สำหรับกิ่งต้นศรีมหาโพธิ์ที่ฝ่ายปกครองนำไปเก็บไว้ที่กองอาสารักษาดินแดน ควรขอพระราชทานพระบรมราชาอนุญาตนำไปเก็บไว้ที่วังไกลกังวล อ.หัวหิน เพื่อให้สมพระเกียรติกับพระองค์ท่าน
