เมื่อวันที่ 25 กันยายน นายไตรรงค์ จอกทอง อายุ 48 ปี รองประธานวิสาหกิจชุมชนบ้านโชคอำนวย ต.วังตามัว อ.เมือง จ.นครพนม ซึ่งเป็นเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่งวง สัตว์ปีกเศรษฐกิจที่โด่งดัง วิงวอนภาครัฐให้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ เนื่องจากขณะนี้กำลังประสบปัญหาขาดทุน เพราะไม่สามารถระบายไก่ที่พวกตนเลี้ยงไว้ออกสู่ตลาดได้
นายไตรรงค์เปิดเผยว่า เมื่อปี 2560 ได้รวบรวมสมาชิก จำนวน 7 ครอบครัว ก่อตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชนเลี้ยงไก่งวงรายย่อย ซึ่งรับลูกไก่มาจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแห่งหนึ่งในตัวจังหวัดนครพนมที่เป็นกลุ่มหลักในการเลี้ยงไก่งวง ประเดิมครั้งแรก 1,000 ตัว ราคาตัวละ 100 บาท นำมาเลี้ยงด้วยการให้อาหารที่หาง่ายในหมู่บ้าน เช่น รำข้าว หญ้าหวาน ผักตบ และต้นกล้วย ใช้เวลาในการเลี้ยงประมาณ 7-8 เดือน โดยมีข้อตกลงกับทางกลุ่มหลักว่าจะรับซื้อไก่งวงคืนต่อเมื่อไก่ได้น้ำหนัก 6 กิโลกรัม (กก.) ขึ้นไป ในราคากิโลกรัมละ 150 บาท และต้องเป็นไก่เพศผู้เท่านั้น เพราะจะมีน้ำหนักมากกว่าเพศเมียที่เลี้ยงเท่าไหร่น้ำหนักก็ไม่เกิน 4 กก.
“ปรากฏว่าเลี้ยงไก่งวงมาได้ระยะหนึ่ง ไก่ที่เลี้ยงมีเพศเมียปะปนมาประมาณ 2-300 ตัว เมื่อนำไก่ไปขายคืนก็ถูกทางกลุ่มปฏิเสธ หรือหากไก่ตัวผู้น้ำหนักไม่ถึงเกณฑ์จะถูกทางกลุ่มกดราคาให้ขายในกิโลกรัมละ 120 บาท พวกตนอยู่ในสภาพจำยอมจึงต้องขาย ขณะที่ไก่ตัวเมียมีปศุสัตว์จังหวัดรับซื้อไประบายออกให้ ปีแรกทางกลุ่มขาดทุนเจ้าละ 4-50,000 บาท มาปีนี้ (2561) ก็ไปซื้อลูกไก่ที่กลุ่มดังกล่าวอีก มีภรรยาประธานกลุ่มได้นำไก่งวงพันธุ์สมอลไวท์ หรือไก่ขาว จากจังหวัดหนองบัวลำภูมาให้พวกตนทดลองเลี้ยง ในราคาตัวละ 80 บาท จึงซื้อมาเลี้ยง 600 ตัว ปัญหาก็เกิดขึ้นอีก เพราะมีไก่ตัวเมียอยู่ประมาณ 300 ตัว ประกอบกับมีฝนตกชุกทำให้ไก่ป่วยเป็นโรคตายไปกว่าครึ่ง
“พอนำไก่ไปขายกับกลุ่มที่ให้พันธุ์มาก็ถูกปฏิเสธไก่ตัวเมียเหมือนเดิม ตนก็ไปหาปศุสัตว์จังหวัด หาทางช่วยเหลือ ก็ได้รับคำตอบว่าปีนี้ให้ช่วยเหลือตัวเองไปก่อน เพราะหัวหน้าคนที่ดำเนินเรื่องกำลังจะย้าย พวกตนจึงเคว้งคว้างไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร อยากให้หน่วยงานภาครัฐช่วยเหลือ หากเป็นเช่นนี้คงต้องประชุมกับผู้เลี้ยงว่าจะดำเนินการต่อหรือไม่ เพราะขาดทุนติดต่อกันถึง 2 ปีซ้อน ถ้าจะเลี้ยงไก่งวงต่อก็ต้องทำข้อตกลงกับกลุ่มหลักใหม่ กรณีมีไก่ตัวเมียปะปนมาจะหาทางออกอย่างไร ทั้งนี้ หากผลการเจรจายังหาข้อยุติไม่ได้ ทางกลุ่มก็คงจะต้องยุติ เพราะแบกรับภาระหนี้สินไม่ไหว” นาไตรรงค์กล่าว
