กรณีโซเชียลมีเดียแห่แชร์เรื่องราวอาการบาดเจ็บของหนูน้อยเพศชาย วัยขวบเศษที่โดนน้ำร้อนลวกที่ใบหน้า แขน และลำตัว เข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเกาะสมุย โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า “น้องเมย์ แล๊ตตาซอยยยย” โพสต์ว่า “ขอเป็นสะพานบุญช่วยเหลือเจ้าตัวเล็กนะคะ โอนผ่านบัญชีแม่น้องนะ เผื่อใครอยากช่วยอยู่โรงพยาบาลเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี น้องโดนน้ำร้อนลวก โดยอยู่กับพี่เลี้ยงๆ เทน้ำร้อนพักไว้ให้ลูกเขา ตัวเล็กเดินไปคว้า โดนหัว โดนหน้า โดนซีกตัว แขน หมอต้องเอาเข้าห้องผ่าตัดเพื่อดมยาสลบและล้างแผล (ไม่รู้จะโดนตาไหม) แม่อาจต้องออกงานมาดู” โดยมีผู้เข้าไปสอบถามถึงอาการบาดเจ็บและบริจาคเงินช่วยเหลือค่ารักษาหนูน้อยนั้น
เมื่อวันที่ 25 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องปลอดเชื้อ หอผู้ป่วยศัลยกรรม โรงพยาบาลเกาะสมุย น.ส.พิทยาภา ราชกิจ อายุ 33 ปี เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเกาะพะงัน ซึ่งเป็นคุณแม่ของด.ช.ปรเมศ อุทัยรัตน์ หรือน้องกตังค์ อายุ 1 ปี 3 เดือน กำลังดูแลหนูน้อยที่ได้รับบาดเจ็บโดนน้ำร้อนลวกด้วยความเป็นห่วง พบว่าที่ใบหน้าหนูน้อยมีร่องรอยจากการโดนน้ำร้อนลวก ส่วนที่หัว แขน และลำตัวถูกพันด้วยผ้าก็อซปิดแผล และน้องกตังค์ยังส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดอยู่ตลอดเวลา ขณะที่แพทย์และพยาบาลต้องคอยดูแลอาการบาดเจ็บอย่างใกล้ชิด
น.ส.พิทยาภา แม่ของน้องกตังค์ เล่าว่า ทุกวันจะฝากน้องกตังค์ไว้กับพี่เลี้ยงเพราะต้องไปทำงานเป็นผู้ช่วยห้องจ่ายกลางที่โรงพยาบาลเกาะพะงัน วันเกิดเหตุวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา พี่เลี้ยงได้ต้มน้ำร้อนแล้วนำมาตั้งไว้บนโต๊ะเพื่อเตรียมไว้สำหรับชงนมให้น้องกตังค์และลูกของพี่เลี้ยงกิน แต่ขณะที่น้องกตังค์กำลังเล่นอยู่นั้น ได้เดินมาถูกหม้อต้มน้ำที่กำลังร้อนหกลวกใส่ที่ใบหน้าและลำตัวจนได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังเกิดเหตุได้นำตัวส่งโรงพยาบาลเกาะพะงัน และแพทย์ได้ส่งตัวมารักษาต่อที่โรงพยาบาลเกาะสมุย
อาการบาดเจ็บของน้องกตังค์ตอนนี้คุณหมอบอกว่าดีขึ้นแล้ว ต้องล้างแผลอีกสักระยะหนึ่งโดยระวังเรื่องการติดเชื้อ บาดแผลที่ลึกจะอยู่ที่แขนและลำตัว ส่วนที่ใบหน้าไม่ลึกเท่าไร แต่น้องมีอาการปวดแผล ร้องไห้ตลอดเวลา ก่อนไปล้างแผลต้องงดน้ำ งดอาหาร 8 ชั่วโมงก็อาจจะทำให้น้องหิวและเพลียได้ และทุกครั้งที่ล้างแผลต้องวางยาสลบเพราะน้องอาจจะทนเจ็บไม่ไหว ส่วนดวงตาของน้องตอนนี้เปลือกตาเริ่มเปิด ถ้าลืมตาขึ้นได้มากกว่านี้แพทย์ถึงจะดูได้ว่ากระทบต่อดวงตาหรือไม่ ตอนนี้รู้สึกกังวลน้อยลงและมีผู้ที่ทราบข่าวได้ช่วยบริจาคเงินค่ารักษา ส่งผ้าอ้อมเด็กมาให้น้องใช้ ตอนนี้น้องใช้สิทธิบัตรทอง 30 บาทในการรักษาครอบคลุมทั้งหมด
ส่วนพี่เลี้ยง ก็แสดงความรับผิดชอบทั้งหมดและเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเลี้ยงน้องกตังค์มาตั้งแต่อายุ 2 เดือน ช่วงที่แม่ไปทำงานเช้า เย็น บางวันเลิกงานดึก พี่เลี้ยงจะดูแลให้เป็นอย่างดีจึงมีความรักและผูกพันกับน้องกตังค์ ทางแม่ก็ไม่คิดจะไปแจ้งความเพราะเป็นอุบัติเหตุ ต่อไปนี้จะเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น สิ่งไหนที่เป็นอันตรายต่อเด็ก จะเก็บทุกอย่าง
ทางด้านพญ.คาทารินา เซาเทอร์ แพทย์เจ้าของไข้ โรงพยาบาลเกาะสมุย กล่าวว่า ตอนแรกที่น้องกตังค์เข้ามารักษามีบาดแผลจากการโดนน้ำร้อนลวกเยอะ ความลึกอยู่ที่ระดับ 2 ตอนนี้อาการน้องดีขึ้นตามลำดับ มีไข้อยู่บ้าง และต้องไปทำแผลที่ห้องผ่าตัดระวังเรื่องการติดเชื้อที่แผล ส่วนที่กังวลว่าตาน้องจะบอดหรือไม่ เท่าที่ดูตอนนี้น้ำร้อนจะถูกแค่เปลือกตาไม่โดนถึงดวงตาแต่ต้องตรวจดูอีกครั้ง ถ้าน้องหายเป็นปกติผิวหนังในส่วนที่เป็นแผลลึกก็จะเป็นแผลเป็นได้ แต่ส่วนที่ไม่ลึก จะหายเป็นปกติ
ขณะที่มีรายงานแจ้งอีกว่า ตอนนี้มีมิจฉาชีพนำภาพของน้องกตังค์และข้อความทั้งหมดไปโพสต์ในเฟซบุ๊กเพื่อขอรับเงินบริจารช่วยเหลือ โดยจะเปลี่ยนเลขบัญชีธนาคารและชื่อเจ้าของบัญชีใหม่ ขอให้ผู้ที่จะโอนเงินตรวจสอบให้ดีอย่าตกเป็นเหยื่อของพวกมิจฉาชีพ ขณะนี้ผู้เสียหายได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่แอบอ้างแล้ว สำหรับผู้ที่จะบริจาคเงินช่วยเหลืองน้องกตังค์ สามารถโอนเข้าที่บัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาเกาะพะงัน ชื่อบัญชี น.ส.พิทยาภา ราชกิจ หมายเลข 534-1-09473-9
