ผู้บริหารโรงพยาบาลพุทธชินราช พร้อมญาติคุณตาวัย 90 ปี แถลงข่าวไม่ติดใจเอาความโรงพยาบาลพุทธชินราช แต่อยากให้ทางนางพยาบาลคนดังกล่าวออกมาขอโทษ ด้านผู้บริหารโรงพยาบาลพุทธชินราชเผยได้ย้ายนางพยาบาลไปช่วยงานที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนไม่เกินน่าจะไม่เกิน 15 วัน
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 27 กันยายน 2561 ที่ตึกอำนวยการ โรงพยาบาลพุทธชินราชพิษณุโลก นายแพทย์สุชาติ พรเจริญพงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพุทธชินราช พร้อม นพ.วิสิทธิ์ เสถียรวันทนีย์ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์อาวุโส รพ.พุทธชินราช นพ.โตมร ทองศรี รองผอ.ฝ่ายการแพทย์ พร้อม นายคง ด้วงพรม อายุ 63 ปี บุตรชายของ นายบุญมา ด้วงพรม คุณตาวัย 90 ปี ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาตัวด้วยโรคถุงลมโป่งพอง แล้วพยาบาลแสดงพฤติกรรมค่อนข้างรุนแรงในการดูแลที่ปรากฎตามคลิปจนเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ว่าทางญาติไม่ติดใจเอาความทางโรงพยาบาลพุทธชินราชแต่อย่างใด หลังจากที่ได้มีการพูดคุยกันแล้ว ระหว่างญาติกับทางผู้บริหารโรงพยาบาล
โดย นายคง ด้วงพรม บุตรชายผู้ป่วย กล่าวว่า วันนี้ได้มีการพูดคุยซักถามสาเหตุที่พยาบาลคนดังกล่าวกระทำรุนแรงในการดูแลคนไข้ก็ได้คำตอบที่เป็นที่พอใจจากทางผู้บริหารของโรงพยาบาลพุทธชินราชพิษณุโลกที่ออกมาขอโทษและให้เหตุผล ซึ่งตนก็ไม่ติดใจเอาความแต่อย่างไร แต่ก็อยากให้ทางนางพยาบาลคนดังกล่าวออกมาขอโทษที่ได้กระทำพฤติกรรมดังกล่าวไปเท่านั้น
ในขณะที่ นายแพทย์สุชาติ พรเจริญพงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพุทธชินราช กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่เกิดจากความเครียดสะสมในการทำงานของพยาบาล ซึ่งเมื่อพูดคุยกับทางญาติของผู้ป่วยแล้ว ก็เข้าใจ และขอบคุณทางญาติที่ไม่ติดใจเอาความ ซึ่งขณะนี้ในส่วนของนางพยาบาลคนดังกล่าวได้ย้ายไปช่วยงานที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก เป็นการทำงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับคนไข้ และ ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยน่าจะใช้เวลาไม่เกิน 15 วัน ก็จะได้ข้อสรุป สำหรับเรื่องนี้ทางโรงพยาบาลจะนำไปเป็นบทเรียนเป็นแนวทางในการให้บริการเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการซ้ำขึ้นอีก
ด้าน นพ. โตมร ทองศรี รองผอ.ฝ่ายการแพทย์ กล่าวว่า สำหรับอาการป่วยของ นายบุญมา ด้วงพรม คุณตาวัย 90 ปี ที่เข้ารับการรักษาตัวด้วยโรคถุงลมโป่งพอง ขณะนี้ก็อยู่ระหว่างทำการรักษาเพราะปอดมีอาการติดเชื้อ ซึ่งเป็นโรคที่มาจากโรคถุงลมโป่งพอง ซึ่งทางโรงพยาบาลก็ให้การดูแลอย่างใกล้ชิด ดูแลผู้ป่วยให้ดีที่สุด
