ดร.ณรงค์เดช รัตนานนท์เสถียร อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ(มรภ.)กาญจนบุรี กล่าวถึงกรณีที่ ศาลปกครองสูงสุดจะมีคำพิพากษากลับคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น โดยให้เพิกถอนมติสภามหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) กาญจนบุรี ที่แต่งตั้งผศ.ปัญญา การพานิช เป็นรักษาราชการแทนอธิการบดี มรภ.กาญจนบุรี เพราะเป็นมติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ว่า คดีเกิดขึ้นเมื่อปี 2551 ที่มีผู้ฟ้องสภามหาวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยในการแต่งตั้ง ผศ.ปัญญา รักษาราชการแทนอธิการบดีว่าเป็นการแต่งตั้งโดยมิชอบเนื่องจากอายุเกิน 60 ปี ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง แต่มีการอุทธรณ์และศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้การแต่งตั้ง ผศ.ปัญญา เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้ เป็นคำพิพากษาเฉพาะกรณีของมรภ.กาญจนบุรี ไม่เกี่ยวกับคดีอื่นๆ มีประเด็นอยู่ 2 ประเด็น คือ อายุเกิน 60 ปี และการมีส่วนได้ส่วนเสียที่ผศ.ปัญญา ซึ่งเป็นกรรมการสภา ในรายงานการประชุมไม่ปรากฏการบันทึกรายงานการประชุมว่า ผศ.ปัญญา ได้ออกจากห้องประชุมในวาระการมีมติแต่งตั้งรักษาราชการแทน แต่ข้อเท็จจริง ผศ.ปัญญา ลุกออกจากห้องประชุมแต่ไม่ได้บันทึกไว้ในรายงานการประชุม
ดร.ณรงค์เดช กล่าวต่อว่า ประเด็นอายุเกิน 60 ปี ตาม พ.ร.บ.มรภ.ไม่มีข้อห้าม แต่ศาลพิพากษาโดยอ้างถึง พ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา และ พ.ร.บ.บำเหน็จบำนาญข้าราชการ ที่พูดถึงการรับราชการอายุต้องไม่เกิน 60 ปี ทั้งนี้หลังศาลปกครองสูงสุดตัดสินแล้ว มรภ.กาญจนบุรี นำคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด เสนอต่อสภามหาวิทยาลัยในการประชุมประจำเดือนกันยายน 2561 และสภามีมติเพิกถอนคำสั่งสภาที่แต่งตั้ง ผศ.ปัญญา เป็นรักษาราชการแทนอธิการบดีเมื่อปี 2551 แล้ว แต่ตามกฎหมายทางการปกครองบัญญัติไว้แล้วว่าการใดที่ ผศ.ปัญญา กระทำไปในสมัยที่ได้รับการแต่งตั้งให้รักษาราชการแทนอธิการบดีเมื่อปี 2551 นั้น เป็นการกระทำโดยชอบ รวมถึงค่าตอบแทนต่างๆ ที่ได้รับก็ถือว่าได้โดยชอบ
อย่างไรก็ตามปัจจุบันยังไม่มีการออกระเบียบใดๆ เนื่องจากต้องรอความชัดเจน และการตีความจากคดีอื่นๆ ด้วย
