สสจ.ยะลา เตือนพ่อแม่-ผู้ปกครอง เฝ้าระวัง ‘โรคหัด’ หลังพบเด็กยะลาป่วยกว่า 150 ราย

ภาพ เอเอฟพี

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา เตือนพ่อแม่ ผู้ปกครอง เฝ้าระวัง “โรคหัด” หลังพบเด็กยะลา ป่วยเป็นโรคหัดอย่างต่อเนื่อง

นายแพทย์สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา เปิดเผยถึงสถานการณ์โรคหัดในจังหวัดยะลามีการเกิดโรคหัดอย่างต่อเนื่อง และมีการระบาดจากพื้นที่ที่ความครอบคลุมของวัคซีนต่ำพบสัดส่วนการเกิดโรคหัดระบาดในกลุ่มเด็ก จากรายงานจำนวนผู้ป่วยโรคหัดในจังหวัดยะลาจากฐานข้อมูลกำจัดโรคหัด เว็บไซต์สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ข้อมูลในช่วงวันที่ 1-29 กันยายน 2561 พบมีผู้ป่วยแล้วจำนวน 156 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอายุ 1-4 ปี (ร้อยละ 45.51) อายุต่ำกว่า 1 ปี (ร้อยละ 29.49) ครอบคลุมทุกอำเภอ โดยอำเภอที่มีผู้ป่วยสูงสุด คืออำเภอยะหา (62 ราย) รองลงมาอำเภอกาบัง (25 ราย) เมืองยะลา (23 ราย) บันนังสตา (18 ราย) กรงปีนั ง (10 ราย) รามัน ธารโต (8 ราย) และอำเภอเบตง (2 ราย)

โรคหัด เป็นโรคไข้ออกผื่นพบได้ทุกวัย และพบได้บ่อยในเด็กเล็ก อายุ 1-6 ปี เกิดจากเชื้อไวรัส ซึ่งพบได้ในจมูกและลำคอของผู้ป่วย ติดต่อกันได้ง่ายมากโดยการไอ จาม หรือพูดกันในระยะใกล้ชิด เชื้อไวรัสจะกระจายอยู่ในละอองเสมหะ น้ำมูก น้ำลาย และเข้าสู่ร่างกายโดยทางการหายใจ บางครั้งเชื้ออยู่ในอากาศเมื่อหายใจเอาละอองที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัสเข้าไปก็ทำให้เป็นโรคได้ ถ้าไม่มีภูมิต้านทาน ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะเป็นเด็กที่ยังไม่ได้รับวัคซีน

นอกจากนี้ โรคหัดยังอาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนที่ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ ส่วนอาการของโรคหัด เริ่มด้วยมีไข้ น้ำมูกไหล ไอ ตาแดง ตาแฉะ และกลัวแสง อาการต่างๆ จะมากขึ้นพร้อมกับไข้สูงขึ้น และจะสูงขึ้นเต็มที่เมื่อมีผื่นขึ้นในวันที่ 4 ลักษณะผื่นนูนแดงติดกันเป็นปื้น ๆ โดยจะขึ้นที่หน้า บริเวณชิดขอบผม แผ่กระจายไปตามลำตัว แขน ขา เมื่อผื่นแพร่กระจายไปทั่วตัว ซึ่งกินเวลาประมาณ 2-3 วัน ไข้ก็จะเริ่มลดลง ผื่นระยะแรกมีสีแดงจะมีสีเข้มขึ้นเป็นสีแดงคล้ำ หรือน้ำตาลแดง บางครั้งจะพบผิวหนังลอกเป็นขุย การตรวจในระยะ 1-2 วัน ก่อนผื่นขึ้นจะพบจุดขาวๆ เล็กๆ มีขอบสีแดงๆ อยู่ในกระพุ้งแก้ม จะช่วยให้วินิจฉัยโรคได้ก่อนที่จะมีผื่นขึ้น อาการแทรกซ้อนที่พบได้บ่อยมากโดยเฉพาะในเด็กเล็ก คือ หูส่วนกลางอักเสบ หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ อุจจาระร่วง สมองอักเสบ พบได้ประมาณ 1 ใน 1,000 ราย ซึ่งจะทำให้มีความพิการเหลืออยู่ ถ้าไม่เสียชีวิต (อ้างอิงข้อมูลจากสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา)

Advertisement

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา เน้นย้ำว่าการป้องกันโรคหัดทำได้โดยการแยกผู้ป่วยที่สงสัยว่าเป็นโรคหัดจนถึง 4 วันหลังผื่นขึ้น หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วยและฉีดวัคซีนป้องกัน ซึ่งปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขให้วัคซีนป้องกันโรคหัด 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อเด็กอายุ 9-12 เดือน ครั้งที่ 2 เมื่อเด็กอายุ 2 ปี ครึ่ง โดยให้ในรูปของวัคซีนรวมป้องกันโรคหัด คางทูม หัดเยอรมัน (MMR) ก็ขอให้พ่อแม่ ผู้ปกครองนำบุตรหลานไปรับวัคซีนให้ครบตามเกณฑ์ และช่วงนี้ขอให้มีการเฝ้าระวังป้องกันโรคหัดตามคำแนะนำเบื้องต้น

ทั้งนี้ ในช่วงที่มีการเกิดโรคหัดในพื้นที่จังหวัดยะลา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลาและเครือข่ายบริการทุกแห่ง มีการดำเนินการป้องกันและควบคุมโรคหัดอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เน้นย้ำให้ผู้ปกครองนำบุตรหลานอายุ 0-5 ปี รับวัคซีนตามเกณฑ์ และเด็กที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ผู้ใหญ่ที่ไม่มีประวัติวัคซีน ให้ได้รับวัคซีนด้วย หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับโรคหัดสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image